นักร้องหนุ่มหล่อสุดเท่หัวหน้าวง BIGBANG ศิลปินดังจากค่าย YG Entertainment ศิลปินที่ได้รับการยกย่องให้เป็นที่ 1 ในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการร้อง การเต้น รวมไปถึงการแต่งเพลง นอกจากนี้ยังเป็นศิลปินที่หลงใหลในด้านแฟชั่นอย่างแท้จริงจนหลาย ๆ คน ยกย่องให้เป็นแฟชั่นนิสต้าผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งอีกด้วย
ประวัติของ ควอน จียง (G DRAGON)
ควอน จียง (Kwon Ji-yong) หรือ จี-ดราก้อน (G-Dragon) หรืออีกชื่อที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในชื่อ GD หนุ่มหล่อมากคงามสามารถคนนี้เป็นชาวเกาหลีใต้ เกิดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม1988 ชีวิตในวัยเด็กเรียกได้ว่าไม่ธรรมดาตั้งแต่เด็กเพราะได้เคยศึกษาที่ GyeongHee University Arts Design School’s Post Modern Music Study เป็นโรงเรียกเกี่ยวกับดนตรีทำให้เขาชื่นชอบการแร็ปและแนวเพลงฮิปฮอปเป็นอย่างมาก และยังมีพรสวรรค์ตั้งแต่เด็กที่เห็นเด่นชัดเลยคือการแต่งตัวเก่งและรักการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจแถมในตอนนั้นยังแร็ปได้ดีอีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ GD ยังแต่งเพลงเก่งอีกด้วย
งาน DaeHanMinGook Hip Hop Flex ที่จัดขึ้นเมื่อปี 2001 ถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของหนุ่ม G DRAGON ซึ่งมาจากชื่อจริงของเขานั้นเอง คว็อน จียง โดยคำว่า ยง นั้น ในภาษาเกาหลีแปลว่า มังกร เมื่อนำมาร่วมกันก็จะได้คำว่า จี-มังกร หรือ จี-ดราก้อน ในการเปิดตัวนี้เขายังเป็นหัวหน้าวงเพราะมีภาวะความเป็นผู้นำสูงและรักเพื่อน ๆ ทุกคน ในปี 2009 ศิลปินหนุ่มได้ปล่อยผลงานเดี่ยวของตัวเองออกมาด้วยการปล่อยอัลบั้ม Heartbreaker เป็นอัลบั้มขายดีที่สุดในเวลานั้นและยังเป็นผงงานที่ประสบความสำเร็จและได้รักระแสตอบรับดีอยากมาก ซึ่งในปีนั้นเองยังกวาดรางวัลอัลบั้มแห่งปี (Album of the Year) จากงาน Mnet Asian Music Awards ประจำปี 2009 จนได้รับฉายาว่า “The king of K-Pop”
จุดเริ่มต้นของ GD
ย้อนกลับไปนานแสนนาน ในวัยเด็กตอนเขาอายุ 6 ขวบ ได้เข้าฝึกฝนกับทางค่าย YG Entertainment เป็นเวลา 6 ปีเต็ม ซุ้มซ้อมและพัฒนาตัวเองจนมาถึงอายุ 12 จึงได้ตัดสินใจเข้ามาเดบิวต์กับทางค่ายเพื่อมาเป็นเด็กฝึกอย่างจริงจังและได้ฉายแววความสามารถเกินกว่าเด็กธรรมดาทั่ว ๆ ไปทั้งร้องทั้งเต้นแถมยังเป็นสมาชิก Little Roo’Ra กลุ่มศิลปินเด็กที่เป็นกระแสมาก ๆ ในตอนนั้น แต่ไม่นานก็ต้องยุบวง Little Roo’Ra ไปเพราะว่าวงลักษณะนี้ไม่ค่อนได้รับความนิยมเท่าที่ควร ทำให้ในวัยเด็กของเขาเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากจนเกิดความคิดนี้อยู่ในหัวว่า “ไม่อยากเป็นศิลปินอีกต่อไปแล้ว”
หลังจากนั้นประมาณ 2 ปี ได้ไปเซ็นสัญญากับ SM Entertainment และกลายเป็นเด็กฝึกทันที แต่ในขณะที่เป็นเด็กฝึกอยู่นั้นก็ไม่ค่อยจะมาซ้อมเท่าไหร่ หลังจากที่เจ้าตัวอยู่ครบสัญญา 5 ปีกับทางค่าย จึงได้บอกลากับทางค่าย และผันตัวเองเข้าสู่วงการฮิปฮอปอย่างเต็มตัว การเปลี่ยนแปลงครั้งทำให้อยากจะร้องเพลงอีกครั้ง
จุดเปลี่ยนของ GD เมื่อรู้จักคำว่า HIPHOP
People Crew’s เป็นจุดเริ่มต้นของ GD ที่ได้เรียนการแร็ปอย่างจริงจังจนได้ออกผลงานเพลงอย่าง My Age is 13 ซึ่งเป็นเพลงที่เขียนขึ้นมาเอง ออกรวมกับหลาย ๆ ศิลปินจาก Hip-Hop Flex 2001 ด้วยวัยเพียง 13 ปีทำให้หลาย ๆ คนสนใจและจับตามองเป็นอย่างมาก ถึงขั้นออกข่าวลงหนังสือว่าเป็นแร็ปเปอร์ที่อายุน้อยที่สุดในตอนนั้น ทำให้เจ้าตัวได้มีโอกาสเซ็นสัญญากับค่ายดังยักษ์ใหญ่อย่าง YG Entertainment และอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
ในปี 2006 Bigbang ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นทำให้หลาย ๆ คนรู้จักเป็นอย่างภายในเวลาอันรวดเร็ว ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน Bigbang ถือว่าเป็นวงที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง มีกระแสตอบรับที่ดีจากแฟนคลับที่อยู่ทั่วโลก และในปี 2016 ที่ผ่านมา นิตยสาร Forbes ยังมีเปิดเผยอีกด้วยว่า Bigbang เป็นวงที่มีรายได้ตลอดทั้งปีอยู่ที่ 44 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,580,040,000 บาท) แซงหน้าเซอร์เอลตัน จอห์น (42 ล้านเหรียญสหรัฐ), เคที เพอร์รี (41 ล้านเหรียญสหรัฐ) และเดรก (38.5 ล้านเหรียญสหรัฐ)
อย่างที่ได้ทราบกันว่า GD เข้าวงการบันเทิงมาด้วยความสามารถทั้งด้านการเต้น การร้อง และการแร็ป แต่ก็อย่าลืมด้านการเขียนเพลงของเขาก็ไม่เป็นสองรองใครแน่นอนมักจะได้รับคำชมและคําวิจารณ์อย่างมาก แถมยังเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับวง Bigbang ของตัวเองอีกด้วย ทั้งอัลบั้มแรก ๆ และอัลบั้มเดียวของตัวเองและยังชอบไปร่วมแจมผลงานของเพื่อน ๆ อีกด้วย
การอยู่ในวงการบันเทิงย่อมต้องแลกมาด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเป็นส่วนตัวที่ต้องบอกลาไปได้เลยทั้งยังมีเรื่องที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองตลอดเพราะต้องคอยเป็นตัวอย่างที่ดีให้กลับเด็ก ๆ และแฟนคลับ หรือแม้แต่คนทั่ว ๆ ไป แต่ผลตอบแทนที่ได้มันก็คุ้มค่าและด้วยความสามารถของเขาที่มากมายและเก่งในด้าน ๆ ทำให้ GD กลายเป็น ที่ 1 ของวงการ K-POP และ HIP HOP ในเกาหลีใต้อย่างถาวร
เครดิต : อะไรทำให้ ‘G-Dragon’ เป็นอัจฉริยะทางดนตรีและผู้ทรงอิทธิพลด้านเเฟชั่นของโลก – THE STANDARD