Ronaldinho ยอดดาวเตะหน้าเปื้อนยิ้มชาวบราซิล ศิลปินแห่งโลกลูกหนังที่ไม่มีแฟนบอลคนไหนเกลียดได้ลง

ในโลกของฟุตบอลคงจะไม่มีแฟนบอลคนไหนที่ไม่รู้จักเขา ชายผู้ที่เต็มเปี่ยมไป ด้วยรอยิ้มจะมีนักฟุตบอลสักคนที่มีความสุขทุกครั้งที่ได้เล่นกับลูกบอล ไม่ว่าการแข่งขันจะดุเดือดมันแค่ไหน เขาคนนี้ก็ยังยิ้มและ ทักษะที่พริ้วไหว สร้างความสุขให้กับผู้ชมตลอดชีวิตที่ค้าแข้ง วันนี้เราจะพาไปรู้จักเขาให้มากขึ้นแบบทุกซอกทุกม บทความ Ronaldinho ยอดดาวเตะหน้าเปื้อนยิ้มชาวบราซิล ศิลปินแห่งโลกลูกหนังที่ไม่มีแฟนบอลคนไหนเกลียดได้ลง เรื่องนี้

ประวัติของ Ronaldinho

• เรื่องราวของ โรนัลดิญโญ่ (Ronaldinho) เริ่มต้นขึ้นในปี 1980 ที่เมือง Porto Alegre ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศบราซิล ในยุคสมัยที่สภาพสังคม ไม่ค่อยสู้ดีนัก, การคอร์รัปชัน, อาชญากรรม, และ การแบ่งชนชั้นทางสังคม ครอบครัวของเขาเรียกได้ว่าอยู่ในชนชั้นกลาง มีสมาชิกในครอบครัวทั้งหมด 4 คนด้วยกัน คือพ่อ แม่ ตัวเขา และพี่ชายที่มีอายุมากกว่า 9 ปี ภายหลังคุณพ่อ ของเขาได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจล้มเหลวฉับพลัน ส่งผลให้แม่ที่ท่าอาชีพเป็นนางพยาบาลต้องเป็นคนหาเงินเข้าบ้านเพียงลำพัง

ชีวิตในวัยเด็กของ Ronaldinho

• ทักษะและพรสวรรค์ในการเล่นฟุตบอลของเขา เริ่มชัดเจนตั้งแต่อายุได้เพียง 8 ขวบ เมื่อเจ้าตัวได้รับการฝึกฝนจากการเล่นฟุตบอลข้างถนน แรงบันดาลใจที่ ท่าให้ โรนัลดินโญ่ หันมาสนใจฟุตบอลนั้นมากจาก โรแบร์โต้ พี่ชายของเขาซึ่งดูแลครอบครัวด้วยการเล่นฟุตบอล ในการหาเงินเลี้ยงครอบครัว โรแบร์โต้เล่นฟุตบอลในตำแหน่งมิดฟิลด์ แม้จะตัวเล็กแต่ก็มีฝีเท้าที่สุดยอด และเขาก็เป็นต้นแบบของสุดยอดตำนานลูกหนังชาวบราซิล อย่าง จูนิญโย่ แปร์ นัมบูคาโน่ ชายผู้พา โอลิมปิค ลียง จารึกประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ 7 สมัย โรนัลดินโญ่ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะเยาวชนกับสโมสร เกรมิโอ้ ซึ่งเป็นทีมในบ้านเกิดของเขาเอง และเรื่องราวที่ทำให้เขาถูกจับตามอง เกิดขึ้นในอีก 6 ปีต่อ มา ด้วยวัย 13 ปี กับการลงแข่งขันกับทีมคู่แข่งในเมืองเดียวกัน ด้วยการเอาชนะไป 23-0 และเขาทำประตูทั้งหมดเพียงคนเดียว

จุดที่ทำให้โลกรู้จัก Ronaldinho

• จุดเริ่มต้นของตำนาน เกิดขึ้นในปี 1997 เขาถูกเรียกตัวติดทีมชาติบราซิลในชุดอายุต่ำกว่า 17 ปี ในยุคนั้นประกอบไปด้วยนักเตะชื่อดังมากมาย เช่น อิเคร กาสิยาส, กาเบียล มิลลิโต้ ก่อนที่เขาจะพาทีมคว่าแชมป์โลกในชุดอายุต่ำกว่า 17 โปครอง และ หนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดตลอดในทัวร์นาเม้นท์นี้ก็คือ เจ้าเหยินน้อย โรนัลดินโญ่ นั่นเอง หลังจากนั้นเขาก็โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นอย่างต่อเนื่องและงดงาม การจับบอลแรกที่สุดยอดจนทำให้ ผู้จัดการทีมของ เกรมิโอ อย่าง เอดินโญ่ ตัดสินใจเรียกเขาขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ในปี 1999 และ ก็มีสายโทรศัพท์จากสโมสรยักษ์ใหญ่โทรเข้ามารุมจีบกันแบบสายไหม้เลยล่ะ

• จนสุดท้ายในปี 2001 ก็เป็น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง สโมสรยักษ์ใหญ่จาก ฝรั่งเศสคว้าตัวเขาไปร่วมทีมได้สําเร็จ แต่การปรับตัวในลีกยุโรปก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โรนัลดินโญ่ ไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งของเขาออกมาช่วยทีมได้จึงทำให้เขาไม่ได้ลงเล่นมากนัก ปัญหาหลักของเขา คือไลฟ์สไตล์ส่วนตัวที่ดูเหมือนเจ้าตัวจะหลงแสง สี มากเกินไป โรนัลดินโญ่ ได้เรียนรู้หลายอย่างเท่าที่จำเป็นเกี่ยวกับเรื่องฟุตบอลอยู่นานหลายปีในฝรั่งเศส ในปี 2002 ฟุตบอลโลกที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ โรนัลดินโญ่ผนึกกำลังกับโรนัลโด้และริวัลโด้ ช่วยให้ทีมบราซิลคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมตลอดทั้งทัวร์นาเม้นต์ ทำให้เขาตกเป็นที่ต้องตาของสโมสรยักษ์ใหญ่หลายทีมต่างอยากได้ตัวเขาไปร่วมทีม 

• จนในที่สุด ปี 2003 เขาก็ได้ย้ายทีมสมใจ และเป็นยอดทีมแห่งเวที ลาลีก้า สเปน อย่าง บาร์เซโลน่า คว้าตัวเขาไปครองด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็น ค่าตัวสถิติสูงสุดของสโมสร ณ เวลา นั้นอีกที่ คัมป์นู เป็นจุดสูงสุดของชีวิตค่าแข้งของเจ้าเหยินน้อยเลยก็ว่าได้ 2 แชมป์ลาลีกา 1 แชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีคส์ กับรางวัลส่วนตัว “บัลลงดอร์ หรือรางวัล ลูกโลกทองคำ ที่นักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกเท่านั้นจะได้ไปครอบครอง เท่านั้นยังไม่พอ เขายังเป็นนักฟุตบอลที่ถูกแฟนบอลทีมออย่าง Real Madrid ลุกขึ้นปรบมือ “ แสนติ้ง โอเวชั่น” ให้ในเกม “เอล กลาซิโก้” เพราะเล่นได้อย่างประทับใจ แม้ว่าเกมนั้นเจ้าบ้านจะพ่ายไปถึง 3-0 ก็ตาม

• แต่แล้วหลังจากปี 2008 ฟอร์มการเล่นของเขาก็เริ่มดรอปลงไป ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่เขาเป็นคนชอบปาร์ตี้ ใช้ชีวิตกลางคืน ไม่ดูแลร่างกายตัวเอง ประกอบกับตอนนั้น ลิโอเนล เมสซี่ ก็เริ่มโดดเด่นขึ้นมา ทำให้ โรนัลโญ่ ตัดสินใจจากทีมในปีนั้น เขาเข้ามาสร้างเรื่องราวอันเป็นตำนานที่ คัมป์นู แล้วเขาก็จากไปอย่างตำนาน ในปี 2008 ทีมปีศาจแดงด่า เอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งเวที ซีเรีย อา ก็ได้ซื้อตัวเขาไป ตลอดเวลาสองปีครึ่งในถิ่นซานซีโร่ ฟอร์มการเล่นของ โรนัลดินโญ่ ก็ ยังไม่ยอดเยี่ยมเหมือนที่ผ่านมาด้วยอายุที่มากขึ้น ทำให้เขาไม่สามารถช่วยทีมให้ประสบความสำเร็จได้ที่เท่าที่ควร และสุดท้ายเขาได้คว้าแชมป์ลีกใน ฤดูกาล 2011 ก่อนที่จะย้ายกลับบ้านเกิดที่บราซิลในปีหลังจากนั้น ทีมฟลูมิเนนเซ่ คือทีมสุดท้ายที่เขาลงเล่นในนามนักฟุตบอล ในปี 2018 เขาก็ได้ตัดสินใจเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ จากวันนั้นถึงวันนี้ทุกอย่างได้จบลงแล้ว โรแบร์โต้ผู้เป็นพี่ชายได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าโรนัลดินโญ่ได้ ตัดสินใจแขวน สตั๊ดในวัย 37 ปี

เกียรติประวัติ 

ระดับสโมสร

• แชมป์ ลาลิกา 2548 2549
• แชมป์ ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา 2548
• แชมป์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2549 ระดับนานาชาติ 
• แชมป์ฟุตบอลเยาวชนโลกอายุ 17 ปี 2540
• แชมป์ โกปาอาเมริกา 2542 2547
• แชมป์ ฟุตบอลโลก 2002
• แชมป์ คอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2548

รางวัลที่ได้ส่วนตัว

• FIFA World Player of the Year ปี 2547 2548 
• World Soccer Player of the Year ปี 2547 2548 
• Ballon d’Or ปี 2548 
• FIFPro World Player of the Year ปี 2548 2549 
• UEFA Club Footballer of the Year ปี 2548

สรุป

แล้วก็จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยนะครับ สำหรับเรื่องราวของ โรนัลดินโญ่ ที่เราได้นำมาฝากเพื่อน ๆ กันในบทความ Ronaldinho ยอดดาวเตะหน้าเปื้อนยิ้มชาวบราซิล ศิลปินแห่งโลกลูกหนังที่ไม่มีแฟนบอลคนไหนเกลียดได้ลง เรื่องนี้ หวังว่าเพื่อน ๆ จะชื่นชอบกันนะครับ ส่วนในครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวของใครนั้น ต้องห้ามพลาดกันเลยนะ