นักแสดง ผู้กำกับ สายเลือดไอริชชาวอิตาเลียน ลุงสุดเก๋าผู้ผ่านภาพยนตร์มามากกว่า 100 เรื่องตั้งแต่สมัยลุงยังเอ๊าะ ๆ แถมยังรับบทบาทมาหมดแล้วไม่ว่าจะเป็น พระเอก ตัวร้าย ตัวตลก หรือแม้กระทั่งตัวประกอบ และลุงยังได้ไปคว้ารางวัลออสการ์มาถึง 2 ครั้ง จากการถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์อีกถึง 6 ครั้งด้วยกัน เรียกได้เลยว่า แก่แต่เก๋าของจริง!
ประวัติของ รอเบิร์ต เดอ นิโร (Robert De Niro)
ลุงแก่สุดเก๋ามากความสามารถอย่าง รอเบิร์ต เดอ นิโร หรือชื่อจริงของลุงว่า รอเบิร์ต มาริโอ เดอ นิโร จูเนียร์ ในวัยเด็กเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัวจิตรกรที่อาศัยอยู่ในมหานครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกาและเกิดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 1943 โดยมีเชื้อสายชาวไอริชและเป็นอิตาเลียนแท้ ๆ ในวัยเด็กชีวิตของเขาค่อนข้างจะน่าเศร้าเพราะพ่อและแม่ของเขานั้นได้แยกทางกันตั้งแต่ยังแด็ก เหตุผลคือพ่อของเขานั้นประกาศตัวว่าเป็นเกย์ ทำให้เขาต้องอาศัยอยู่กับแม่เพียง 2 คนตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ในวัยเด็กเขาชอบการแสดงเป็นอย่างมาก จึงเลือกที่จะเรียนการแสดงตั้งแต่เด็ก ๆ จนทำให้ได้แสดงละครเวทีของโรงเรียนเมื่ออายุ 10 ขวบ
หลังจากที่เรียนมาสักพักตอนนั้นเขาน่าจะอายุประมาณ19-20 ปี เขาได้ตัดสินใจเลิกเรียนไฮสคูลเพื่อที่ตนเองจะได้ออกไปทำตามฝันด้วยการเป็นนักแสดง โดยในช่วงแรก ๆ เขาได้เริ่มการแสดงจากภาพยนตร์ Three Room in Manhattan ด้วยการรับบทบาทเล็ก ๆ ต่อมาในปี 1968 เขาก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น ผู้กำกับอย่าง Brian De Palma ก็เอ่ยปากบอกต้องการให้เขามารับบทนำในภาพยนตร์ของเขาเรื่อง Greetings ภาพยนตร์ต้นทุนต่ำซึ่งใช้ทุนสร้างเพียงแค่หลักหมื่นดอลลาร์เท่านั้น ทำให้หลังจากนี้ รอเบิร์ต เดอ นิโร ก็มีผลงานออกมาให้ได้ดูอยู่เรื่อย ๆ อย่างเรื่อง The Wedding Party (1969) และเรื่อง Hi, Mom!(1970) ของผู้กำกับ De Palma ก่อนกลับมาร่วมงานอีกครั้งในอีก17ปีต่อมากับภาพยนตร์เรื่องThe Untouchables (1987)
จุดเริ่มต้นสู่การคว้ารางวัลออสการ์
จุดเริ่มต้นอย่างจริงจังของ รอเบิร์ต คงจะมาจากการแสดงครั้งแรกอย่างภาพยนตร์เรื่อง The Wedding Party ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ได้กระแสตอบรับอย่างดีเลยทีเดียว เปิดโอกาสให้เขาได้มาแสดงในบทบาทของ วิโต คอร์ลีออเน่ ภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง The Godfather II (1974) ภาพยนตร์ที่ทำให้เขาได้ไปคว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมมาครอง
หลังจากที่เขาได้คว้ารางวัลออสการ์ครั้งแรกมาครองได้สำเร็จ ในปี 1981 เขาก็ได้คว้ารางวัลออสการ์ครั้งที่ 2 ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากเรื่อง Raging Bull (1980) มาครองได้สำเร็จ ในช่วงนั้นเขาเป็นนักแสดงคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเพราะมีรางวัลออสการ์มาครองถึง 2 ครั้ง และภาพยนตร์เหล่านี้คือภาพยนตร์ที่ทำให้เขามีชื่อเข้าชิงออสการ์อีก 6 ครั้งด้วยกัน Taxi Driver (1976), Deer Hunter (1978) , Awakenings (1990) , Cape Fear (1991) , Silver Linings Playbook (2013) และ The Irishman (2020)
Martin Scorsese ผู้กำกับผู้ชื่นชอบ รอเบิร์ต เดอ นิโร (Robert De Niro)
Martin Scorsese ผู้กำกับสุดเก๋ามากความสามารถ ภาพยนตร์ของแกส่วนใหญ่เรียกว่าไม่ธรรมดา นักแสดงในฮอลลีวูดหลาย ๆ ล้วนอยากจะมีโอกาสมาร่วมแสดงอยู่ในหนังของแกแต่ รอเบิร์ต เดอ นิโร กลายเป็นนักแสดงเพียงคนเดียวที่ผู้กำกับคนนี้อยากได้ตัวเขาเป็นมาแสดงในภาพยนตร์ของเขาอย่างภาพยนตร์เรื่อง Mean Streets ที่เข้าฉายเมื่อปี 1973 เป็นภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับอาชญากรรมที่เขาได้มีโอกาสที่ได้ร่วมแสดง และกลายเป็นนักแสดงคู่ใจของผู้กำกับ Martin Scorsese ไปในที่สุด
หลังจากที่ผู้กำกับคนนี้ถูกอกถูกใจเขาเป็นอย่างมาก แน่นอนนั้นทำให้เขาได้เล่นภาพยนตร์ต่าง ๆ ในอีกหลาย ๆ เรื่องแถมบทบาทแต่ละเรื่องก็ยังแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงอย่างในปี 1976 เขาก็ได้รับบทบาทเป็น Travis Bickle ทหารผ่านศึกที่มาทำงานเป็นคนขับรถแท็กซี่กะกลางคืนในจากภาพยนตร์เรื่อง Taxi Drive ต่อมาในปี 1977 เขาก็ได้รับบทบาทเป็น Jimmy Doyle นักดนดรีแจ๊ซ ในภาพยนตร์เรื่อง New York ถัดมาจากนั้น 3 ปี ในปี 1980 เรียกได้ว่าเป็นปีทองสำหรับเขาเลยก็ว่าได้เพราะได้รับบทบาทเป็น Jake LaMotta นักมวยสากลรุ่น Middleweight ระดับตำนาน จากภาพยนตร์เรื่อง Raging Bull ซึ่งนับว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเขาเลยทีเดียว
ถัดมาอีก 3 เขาก็ได้รับบทเป็น Rupert Pupkin ผู้มีปัญหาทางจิตและนักเดี่ยวไมโครโฟนสายตลก ในภาพยนตร์เรื่อง The King of Comedy ไม่นานในปี 1990 ภาพยนตร์เรื่อง Goodfellas ก็เรียกเขาเข้ามารับบทเป็น Jimmy Conway มาเฟียที่มีตัวตนอยู่จริงในและในปีเดียวกันภาพยนตร์เรื่อง Cape Fear (1990) ก็ยังให้เขามารับบทบาทเป็น Max Cady อดีตนักโทษผู้มีความแค้นกับอดีตทนายความที่ปล่อยให้เขาติดคุกยาวนานถึง 14 ปี ก่อนที่จะมารับบทสุดเก๋าอย่าง Sam”Ace” Rothstein มาเฟียเจ้าของบ่อนคาสิโนที่ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตนเองในภาพยนตร์เรื่อง Casino ที่ออกฉายในปี 1995 และล่าสุดลุงรอเบิร์ต เดอ นิโร ก็ได้ร่วมงานกับทาง Netflix รับบทเป็น Frank Sheeran มาเฟียไอริชจากภาพยนตร์เรื่อง The Irishman ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริง ที่ออกอากาศบน Netflix เมื่อปี 2019 ซึ่งภาพยนตร์ที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนถูกกำกับโดย Martin Scorsese
เรียกได้ว่าเป็นนักแสดงรุ่นใหญ่รุ่นเก๋าตัวพ่อเลยก็ว่าได้สำหรับนักแสดงมากความสามารถอย่าง รอเบิร์ต เดอ นิโร จากบทบาทที่เขาได้รับมานั้นออกไปทางดราม่าซะส่วนใหญ่ แต่บอกเลยว่าลุงสุดเก๋าคนนี้เล่นบทตลกก็ฮาไม่แพ้กันแน่นอนอย่างเช่นเรื่อง The Intern (2015) ไปหาชมกันได้เลย
เครดิต : โรเบิร์ตเดอนีโร | ชีวประวัติภาพยนตร์และข้อเท็จจริง (delphipages.live)