หลวงผลิต หรือ เป๊ก ผลิตโชค สามีแห่งชาติผู้ที่สาว ๆ ชื่นชอบและรู้จักกันเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาตั้งแต่เด็ก ๆ จากรายการการ์ตูนสำหรับเด็กชื่อดังอย่าง ดิสนีย์คลับ ก่อนจะผันตัวมาเป็นนักร้องและกลายมาเป็นศิลปินแถวหน้าที่โด่งดังสุด ๆ ของประเทศไทย
ประวัติของ เป๊ก ผลิตโชค
ผลิตโชค อายนบุตร หรือ เป๊ก หนุ่มหล่อนักร้อง พิธีกร นายแบบ ชาวไทย เกิดเมื่อ 9 สิงหาคม 2527 ในสมัยเด็กขณะที่ เป๊ก ผลิตโชค กำลังเรียนอยู่ในระดับอนุบาลนั้น ก็มีเหตุจำเป็นทำให้พ่อของ เป๊ก ผลิตโชค ย้ายไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย จึงทำให้ เป๊ก ผลิตโชค ต้องออกจากการเรียนกลางคันในตอนนั้น และได้ย้ายไปอาศัยอยู่กลับครอบครัวที่ประเทศออสเตรเลียเป็นเวลาประมาณ 7 ปี และได้เริ่มเรียนต่อในระดับชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียน Cabramatta Public School ในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ต่อมาหลังจากที่พ่อและแม่ของ เป๊ก ผลิตโชคได้ตัดสินใจแยกทางกัน ทำให้ เป๊ก ผลิตโชค ต้องตัดสินใจและเลือกที่เดินตามฝันจึงได้ย้ายกลับมาประเทศไทยพร้อมกับพ่อของเขาตั้งแต่อายุ 15 ปี
หลังจากกลับมาประเทศไทย เป๊ก ผลิตโชค ได้กลับเรียนมัธยมต้นต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า และตอนปลายที่โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า (สายศิลป์–ฝรั่งเศส) และได้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก สาขาวิชาดุริยางคศาสตร์สากล คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
จุดเริ่มต้นสู่ตามล่าฝันสู่การเป็นศิลปิน
รายการ Disney Club และรายการ Wake Club เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ เป๊ก ผลิตโชค เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงจากการเป็นพิธีกรในตอนนั้น สมัยที่ยังเป็นพิธีกรในรายการ Disney Club นั้น เป๊กบอกว่า ตอนสมันเด็ก ๆ เป๊กเป็นคนที่ความจำไม่ค่อยดีเท่าไร และสคริปต์มันก็ยาวมาก เวลาอัดรายการก็มักจะขอโทษพี่ ๆ เพื่อน ๆ ทีมงานตลอดเพราะเขามักจะพูดวกไปวนมาตลอด หลังจากนั้นไม่นานเมื่อ เป๊ก ผลิตโชค อายุได้ 18 ปี เขาได้เริ่มโด่งดังจากการเป็นนักร้องอย่างเต็มตัวโดยได้เป็นสมาชิกวงดนตรีชื่อ G-BOYZ สังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ หลังจากที่เป๊กได้ฝึกกับแกรมมี่ประมาณ 7 ปีก่อนที่จะมาเดบิวต์ โดยในวงมี ฟิล์ม รัฐภูมิ เป็นเพื่อนร่วมวงอีกด้วย
แต่ G-BOYZ ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จจนโด่งดังเหมือนเป็นที่รู้จักมากนัก คนในวงก็ต่างแยกย้ายกันออกไป ทำให้หนุ่ม เป๊ก ผลิตโชค ได้หันมาสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วยการผันตัวเองกลายเป็นศิลปินเดี่ยวที่ออกเพลงมาหลาย ๆ เพลงก็กลายเป็นเพลงฮิตตลอดการอย่างเพลง ไม่มีใครรู้ ในอัลบั้ม ONE MAN STORY ชุดที่ 1 ทำให้ เป๊ก ผลิตโชค กลายเป็นศิลปินเดี่ยวอย่างเต็มตัวทันที ไม่นานหลังจากที่มีผู้คนรู้จักมากยิ่งขึ้น เป๊ก ผลิตโชค ก็มีเพลงใหม่ออกมามากมายอย่าง หรือแค่ขำๆ, ใจหนึ่งก็รักอีกใจก็เจ็บ ที่หลาย ๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดีก่อนจะมีโปรเจกต์พิเศษกับ 3 หนุ่ม เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์ โดยร่วมกับนักร้องหนุ่มอีก 2 คนอย่าง อ๊อฟ ปองศักดิ์ และ ไอซ์ ศรัญยู กับเพลง แค่คนโทรผิด เพลงนี้ทำเอาโด่งดังเป็นพลุแตกและมีผลงานตามออกมาเรื่อย ๆ
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเปลี่ยนไปมากไหน?
เป๊ก ผลิตโชค บอกว่าหากพูดถึงในด้านการร้องเพลง ส่วนตัวเป๊กคิดว่ามันไม่เปลี่ยนไป เพราะจริง ๆ แล้วเป๊กร้องได้หลากหลายแนวมากไม่ได้มีสไตล์การร้องที่ตายตัว เป๊กมักบอกว่าเขานั้นร้องเพลงได้ไม่เก่ง แต่ใช้เทคนิคฝึกฝนและเรียนรู้เอา ตั้งแต่สมัยเป็นศิลปินแรก ๆ ก็เริ่มฝึกร้องสายป๊อป แจ๊ส พอเริ่มมาในช่วงมหาวิทยาลัย เป๊กได้เรียนโอเปร่าเพื่อเป็นการฝึกร้อง เพราะเขาอยากลองร้องทุกสไตล์ เพื่อนำมาปรับใช้ให้เป็นสไตล์การร้องของตัวเอง ถ้าเรามีการฝึกฝนบ่อยเท่าไหน กล้ามเนื้อก็จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้มีเสียงที่แข็งแรง ก็เหมือนการออกกำลังกาย
ส่วนในเรื่องภาพลักษณ์ต่าง ๆ รวมถึงสไตล์การแต่งตัว เป๊ก ผลิตโชค ก็บอกว่าเปลี่ยนไปเยอะมาก เพราะมันขึ้นอยู่กับช่วงการใช้ชีวิตของเป๊กในช่วงนั้น ๆ เช่นตอนไปญี่ปุ่นเป๊กก็มีจะมีเพื่อนเป็นชาวญี่ปุ่นเยอะมาก ทำให้เขาต้องปรับหรือเพิ่มนั้นนู้นนี่ตามแฟชั่นของบ้านเขา ต้องไอเทมเยอะไว้ก่อนอะไรประมาณนี้ มันทำให้เป๊กชอบที่นั้นมาก รักแฟชั่นและชื่อชอบการแต่งตัว เป๊กรู้สึกว่าเขานั้นสนุกไปกับมัน อยากใส่อะไรก็ใส่ เข้ากันบ้างไม่เข้ากันบ้าง ก็ถือเป็นการทดลอง แต่พอตอนนี้อายุที่เพิ่มมากขึ้น จะให้ไปแต่งตัวแบบเมื่อก็คงไม่ได้แล้วเป๊กกล่าว เริ่มมีการลดจำนวนชิ้นลงมาหน่อย แต่ก็ยังเป็นตัวเองอยู่อย่าง หมวก เป๊กบอกสิ่งนี้ขาดไม่ได้เลย เพราะชอบสะสมมาก มีทุกสไตล์ แต่ก็จะชอบหมวกแก๊ปเป็นพิเศษ กลายเป็นเอกลักษณ์ของเขาไปแล้ว
หลังจากที่เจ้าตัวห่างหายไปนานและตลอดเวลาที่ เป๊ก ผลิตโชค อยู่ในวงการบันเทิงมานั้น เป๊ก ผลิตโชค มักถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องภาพลักษณ์รูปร่างหน้าตาต่าง ๆ มากมายจนเกิดเป็นกระแสมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่มาจนถึงตอนนี้เขาได้พิสูจน์ตนเอง ผ่านการแสดงความสามารถในด้านร้องเพลงทั้งในรายการ The Mask Singer Thailand และยังได้ออกมาขอบคุณทุก ๆ คนที่เป็นกำลังใจและยอมรับในความสามารถเขา เป๊กยังกล่าวอีกว่า “หน้ากากจิงโจ้คือสิ่งที่ช่วยเขาไว้ เพราะหน้ากากนี้ทำให้คนอื่น ๆ ได้เห็นความสามารถของเขาอย่างแท้จริง ทั้งการร้องเพลง และการแสดงที่เขาได้แสดงออกมาผ่านทางรายการ และขอบคุณทุกคนที่เปิดใจยอมรับเขาอีกครั้ง” จากรายการนี้และตลอดจนรายการอื่น ๆ ทำให้เขาได้พิสูจน์ให้ผู้คนจำนวนมาได้เห็นแล้ว เป๊ก ผลิตโชค ก็กลายเป็นขวัญใจของใครหลาย ๆ คน
เครดิต www.gqthailand.com