ผู้กำกับคนนี้เป็นหนึ่งในผู้กำกับในประเทศไทยที่แทบจะไม่มีใครไม่รู้จักกับผู้สร้างมากความสามารถคนนี้ได้ ซึ่งเขาเป็นผู้กำกับที่มักจะหยิบเอาเรื่องราวที่กำลังเป็นประเด็นต่าง ๆ บนโลกมาสร้างรวมอยู่ในภาพยนตร์ของเขา แน่นอนว่าต้องมีคนทั้งชอบและไม่ชอบเขาแต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหาที่จะทำให้เขานั้นหยุดสร้างหนังของเขาได้วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับผู้กำกับแถวหน้าของเมืองไทยคนนี้ให้มากขึ้นกันดีกว่าว่าเพราะอะไรเขาถึงได้มักเอาเรื่องราวต่าง ๆ มาสร้างเป็นเรื่องราวประกอบอยู่ในภาพยนตร์ของเขา
ประวัติของ พชร์ อานนท์ ผู้กับกับแนวหน้าของประเทศไทย
หลาย ๆ คนน่าจะได้เคยชมผลงานของเขากันมาบ้างแล้วก็คงจะทราบสไตล์การสร้างหนังของเขากันเป็นอย่างดีจะเป็นใครไปไม่ได้เขาคนนี้มีชื่อว่า พชร์ อานนท์ หรือชื่อจริง ๆ ว่า อานนท์ มิ่งขวัญตา เป็นผู้กำกับ นักแสดงและพิธีกรชาวไทย เขานั้นเกิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2513 แต่กว่าจะประสบความสำเร็จเหมือนในวันนี้ได้นั้นในวัยเด็กของเขาค่อนข้างที่จะลำบากพอสมควรเพราะเขานั้นเติบโตมากับครอบครัวที่คอยสอนให้ตนเองนั้นสู้ชีวิตและเวลาจะทำอะไรให้พยายามทำด้วยตัวเองซึ่งนั้นทำให้ช่วงที่เขากำลังเรียนมัธยมอยู่ที่โรงเรียนมัธยมวัดด่านสำโรง จังหวัดสมุทรปราการอยู่นั้นเขาต้องทำงานอยู่หลากหลายอาชีพในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันเพราะเคยทำทั้งการเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ตามโรงแรมชื่อดังต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งเป็นกระเป๋ารถเมล์เพื่อที่จะหาเงินใช้จ่ายและส่งตัวเองเรียนจนจบ ม.6 หลังจากนั้นตนก็ได้ตัดสินใจเรียนต่อที่รามคำแหงเพราเขามีเงินไม่มากนักทำให้ต้องเรียนและทำงานอื่น ๆ ไปด้วยก่อนจะมีคนชักชวนในเขานั้นไปถ่ายแบบนั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต
จุดเริ่มต้นในการเข้ามาอยู่ในวงการของ พชร์ อานนท์ จนกลายมาเป็นผู้กำกับชื่อดังในปัจจุบัน
ย้อนกลับไปในช่วงที่เขาเริ่มมีกานถ่ายแบบนั้นนั้นถือเป็นโอกาสดีที่ทำให้เขานั้นได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ แต่หลังจากที่ทำไปได้สักพักเขาก็รู้สึกว่านี้ไม่ใช่ทางของเขาจึงขอเปลี่ยนงานไปทำอย่างอื่นจนได้มีโอกาสก้าวเข้ามาทำงานเกี่ยวกับ Fashion Stylist ถ่ายโฆษณาลงหนังสือเขาก็รู้สึกโอเคเป็นอย่างมากทำไปทำมาได้ประมาณ 2 ปีหัวหน้าของเขาก็ได้ติดสินใจให้เขานั้นก้าวขึ้นมาเป็น บก. ด้วยวัยเพียง 19 ปี เพราะในช่วงนั้นบก.บริหารลาออกพอดีทำให้เขานั้นได้เริ่มทำหนังสือ พจน์ อานนท์ ซึ่งเป็นหนังสือนิตยสารสำหรับวัยรุ่นหลายฉบับรวมถึงการเป็นแมวมองหาเด็กมาเข้าวงการ และในช่วงนั้นเขายังได้เงินเดือนมากถึง14,000 บาทเลยทีเดียวซึ่งเงินจำนวนนี้สมัยนั้นเป็นอะไรที่เยอะมากสำหรับเด็กวัยอย่างเขา
เวลาผ่านเขาได้กลายเป็นแมวมองที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากแถมยังสร้างดาราหลาย ๆ คนให้แจ้งเกิดมาในวงการมาแล้วนับไม่ถ้วนไม่ว่าจะเป็น แอนดริว เกร้กสัน, ปราโมทย์ แสงศร, เต๋า สโรชา วาทิตตพันธ์, มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์, เต๋า สมชาย เข็มกลัด, อั๊ต อัษฎา พานิชกุล, จอน ดีแลน, เล็ก ศรันย์, โดม ปกรณ์ ลัม, ฝันดี ฝันเด่น จรรยาธนากร, กิ๊ฟต์ วรรธนะ กัมทรทิพย์, ฟลุ๊ค เกริกพล มัสยวานิช, โจ๊กเกอร์ นพชัย, ตั๊ก บริบูรณ์, ออย ธนา, แทค ภรัณยู, ฟิล์ม รัฐภูมิเป็นต้น จนกระทั่งมีอยุ่วันหนึ่งมีทีมงานของคนในวงการภาพยนตร์มาขอตัวเด็กในสังกัดของเขาไปเล่นหนังเขาจึงมีอกาสไปเยี่ยมในกองถ่ายอยู่บ่อย ๆ ทำให้เขานั้นเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับวงการภาพยนตร์ไปที่ละนิดตั้งแต่การจัดแสงจนไปถึงการถ่ายทำ
การก้าวเข้าสู่การเป็นผู้กำกับอย่างเต็มตัวของ พชร์ อานนท์
หลังจากที่เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวในกองถ่ายมาเป็นเวลาหลายปีในที่สุดโอกาสของเขาก็มาถึงเมื่อเขาได้พบกับเจ้าของค่าย Five Star อย่าง คุณเชนกับคุณอ้วนทั้งสองได้เรียกตัวเขาเข้าไปคุยและเชิญชวนให้ตนนั้นมาเป็นผู้กำกับและในตอนนั้นเองผู้กำกับเก่า ๆ หลายคนก็ไม่เห็นด้วยกับทางค่ายเป็นอย่างแต่ทางค่ายเองก็ยังยืนยันว่าพวกเขานั้นอยากลองอะไรที่แตกต่างดูบ้างนั้นจึงเป็นโอกาสของ พชร์ อานนท์ จนในที่สุดเขาก็ได้เป็นผู้กำกับเรื่องแรกอย่างเรื่อง สติแตกสุดขั้วโลก ซึ่งเป็นหนังที่มีเรื่องราวที่แปลกแหวกแนวที่สามารถทำเงินไปได้มากถึง 50 ล้านบาทและยังเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงที่สุดในปีนั้นอีกด้วยเป็นเรื่องแรกที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับเขาได้เป็นจำนวนมาก เขาจึงได้กลายเป็นผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรงที่หลาย ๆ คนยอมรับและมีผลงานอื่น ๆ ตามออกมาอีกอย่างเช่นภาพยนตร์เรื่อง 18 ฝนคนอันตราย, ปล้นนะยะ, เอ๋อเหรอ, ไฉไล, หอแต๋วแตก, เพื่อน…กูรักมึงว่ะ, สตรีเหล็กแต่เรื่องที่หลาย ๆ คนน่าจะจดจำกันได้เป็นอย่างดีก็น่าจะเป็นเรื่อง หลวงพี่แจ๊ส ที่ประสบความสำเร็จกับรายได้อย่างมหาศาลแถมยังทำเงินไปได้มากกว่า 100 ล้านบาทอีกด้วย peoplelikeuscollective
เครดิต ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ