หนึ่งในนักแสดงและผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์มากความสามารถคนหนึ่งของอเมริกา เจ้าของบทบาทหลากหลายในโลกภาพยนตร์แถมยังกวาดรางวัลมาแล้วนับไม่ถ้วนที่สำคัญเขายังอยู่ในแวดวงของภาพยนตร์มาอย่างยาวนานจนคนในวงการยกย่องให้เขาเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทที่มีความสามารถที่สุดคนหนึ่ง แต่กว่าที่เขาจะประสบความสำเร็จมากมายแบบวันนี้ได้นั้นเขาต้องผ่านอุปสรรค์ต่าง ๆ มามากมายจนเขาได้ก้าวขึ้นมาทำตามฝันของตัวเองได้สำเร็จ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมารู้จักประวัติของเขากันสักเล็กน้อยกันดีกว่า ว่าเข้าเป็นใครทำให้ถึงได้ประสบความสำเร็จมากมายขนาดนี้
ประวัติของ เบน สติลเลอร์ (Ben Stiller)
หากใครเป็นแฟนภาพยนตร์แล้วละก็ต้องรู้จักชายคนนี้เป็นอย่างดีเพราะเขาเป็นนักแสดงมากความสามารถคนหนึ่งที่ใคร ๆ ได้ดูแล้วก็ต้องอึ้งกันไปตาม ๆ กัน เขาคนนี้มีชื่อว่า เบน สติลเลอร์ หรือมีชื่อเต็ม ๆ ว่า เบนจามิน เอ็ดเวิร์ด สติลเลอร์ เขาเกิดวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1965 เป็นถึงผู้สร้างและกำกับภาพยนตร์ แถมยังเป็นนักแสดงมากความสามารถของอเมริกา ในวัยเด็กของเขานับว่าเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ในด้านภาพยนตร์เป็นอย่างมาก เพราะพ่อของเขาชื่อว่า เจอร์รี่ สติลเลอร์และ แอนน์ เมียร่า ซึ่งเป็นคุณแม่ของเขาที่สำคัญเธอยังเป็นถึงดาราดังจากรายการ The Ed Sullivan Show นั้นเป็นสาเหตุที่ทำไมเขาถึงมีพรสวรรค์ในด้านภาพยนตร์ตั้งแต่ ๆ เด็ก ๆ เจ้าหนูน้อยในวัย 10 ขวบได้เริ่มฉายแววเป็นครั้งแรกด้วยการถ่ายหนังของตัวเองขึ้นมาหลายต่อหลายเรื่องด้วยกล้องซูเปอร์เอทของเขา จนทำให้หลาย ๆ คนเห็นแววในตัวเด็กคนนี้
จุดเริ่มต้นในการเข้ามาอยู่ในโลกภาพยนตร์ของ เบน สติลเลอร์ (Ben Stiller)
จุดเริ่มต้นของเขาคงต้องย้อนกลับไปในวัยเด็กหลังจากที่เขาได้เริ่มถ่ายทำภาพยนตร์เป็นของตัวเองด้วยวัยเพียง 10 ขวบ เขาก็มีโอกาสได้เล่นซีรีส์สุดอฺตอย่างเรื่อง Kate McShane ซึ่งแน่นอนแม่ของเขาเป็นนักแสดงนำของเรื่องนี้นั้นเอง และการที่เขาได้เล่นซีรีส์นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้ก้าวเข้ามาอยู่วงภาพยนตร์อย่างจริงจัง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้เข้าศึกษาต่อที่ UCLA ในวิชาการภาพยนตร์แต่ก็น่าเสียด้ายที่เขาเรียนได้ถึงปีก็ต้องตัดสินใจลาออกมาเสียก่อน
สาเหตุที่เขาต้องออกจากการเรียนนั้นเป็นเพราะว่า เขาต้องหันหน้าเข้ากับงานด้านการแสดงอย่างจริงจังเพราะเขาได้มีโอกาสแสดงในละครบรอดเวย์เรื่องดังอย่าง The House of Blue Leaves แถมละครเรื่องนี้ยังได้ไปกวาดรางวัลอย่างโทนี่อวอร์ดสมาครอบครองอีกด้วย ทำให้เขาได้กลายเป็นนักแสดงที่หลาย ๆ คนจองจับตามองเป็นอย่างมากซึ่งในช่วงที่เขาได้แสดงละครอยู่นั้น เขาได้ลองอะไรที่แปลกใหม่ไปกว่าเดิมโดยการเริ่มรับบทเล่นแนวตลกจากภาพยนตร์เชื่อดังเรื่อง Empire of the Sun แถมยังมีละครทีวีตามมาอีกเพียบนับว่าในช่วงนั้นเขากลายเป็นนักแสดงที่ฮอตฮิตที่สุดเลยก็ว่าได้เพราะหลาย ๆ คนลงความเห็นเหมือนกันที่ว่าเขานั้นแสดงออกมาได้สมบทบาทและเข้าถึงตัวละครในเรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างมาก
ในเวลาต่อมาเขากลายเป็นชายหนุ่มสุดฮอตที่มีผลงานด้านการแสดงออกมาอย่างมากมายนับไม่ถ้วนเรามักจะเห็นผลงานของเขาได้ทุกปี ไม่เพียงแต่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่เขารับเล่น ภาพยนตร์เล็ก ๆ เขาก็รับเล่นเช่นกันรวมไปถึงละครสั้นเรื่องต่าง ๆ มากมายที่สำคัญเขายังได้ไปโชว์ผลงานในละครสั้นสุดโด่งดังอย่าง The Color of Money ก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนตัวเองมาทำสิ่งใหม่ ๆ โดยการที่เขาได้มีโอกาสมาเขียนบทและแสดงในรายการชื่อดังของอเมริกาอย่างรายการ Saturday Night Live หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้มีรายการเป็นของตัวเองอย่างรายการ The Ben Stiller Show ที่ได้ออกอากาศในช่องทีวีสุดฮิตของอเมริกาอย่างช่อง MTV แต่น่าเสียดายที่รายการของเขานั้นอยู่ได้ไม่นานเท่าไหร่ก็ต้องจบลง แต่นั้นก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังหรือเสียใจ เพราะรายการของเขานี่ได้ทำให้เขาได้รับรางวัลเอ็มมี่ในปี 1993 นั้นเอง
ชายผู้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในโลกภาพยนตร์
หลังจากที่เขาได้กลายเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในตอนนั้นเขาก็ได้ลองหันมากับกำภาพยนตร์เรื่องแรกของตัวเองดูสักครั้งซึ่งภาพยนตร์เรื่องแรกที่เขาได้กำกับนั้นก็คือภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง Reality Bites และภาพยนตร์เรื่องนี้ยังประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกวาดรายได้ไปแบบถล่มทลายแถมยังกวาดรายเสียงวิจารณ์ที่ดีได้เป็นอย่างมาก ทำให้ไม่นานเขาก็ได้มีโอกาสกำกับภาพยนตร์เรื่องใหม่สุดฮอตอย่าง The Cable Guy ที่ทำรายรายถล่มทลายไม่แพ้ภาพยนตร์เรื่องแรกที่เขาได้กำกับเลยแม้แต่น้อย ต่อมาเขาก็ได้มีโอกาสได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง Flirting with Disaster ก่อนที่เขาจะได้เซ็นสัญญาร่วมงานกับบริษัทชื่อดังอย่าง ฟ็อกซ์ โดยในสัญญานั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการผลิตภาพยนตร์ให้กับทางฟ็อกซ์นั้นเองซึ่งเขาก็ได้สร้างภาพยนตร์ร่วมกันกับทาง ฟ็อกซ์ สองถึงสามเรื่องด้วยกัน
เรียกได้ว่าเป็นหนุ่มมากความสามารถที่มีประสบการณ์อยู่ในวงการภาพยนตร์มาอย่างยาวนานทั้งงานการแสดงและงานกำกับภาพยนตร์ที่สำคัญเขายังมีผลงานที่ประสบความเร็จเป็นอย่างมากอย่าง Reality Bites , The Cable Guy แถมยังได้ไปอำนวยการสร้างให้กับภาพยนตร์ในหลาย ๆ เรื่องอย่าง Zoolander , Starsky & Hutch , Dodgeball: A True Underdog Story , The Ruins และ Blades of Glory peoplelikeuscollective
เครดิต เบน สติลเลอร์ – วิกิพีเดีย