นับว่าเป็นอีกหนึ่งนักแสดงคุณภาพของฮอลลีวูดเลยก็ว่าได้ เพราะฝีมือการแสดงของเขานั้นเรียกว่าขั้นเทพแบบสุด ๆ สามารถแสดงได้หลากหลายบทบาทและเข้าถึงบทบาทนั้นได้อย่างดีเยี่ยมทำเอาเหล่าบรรดาแฟน ๆ ทั้งหลายชื่อชอบเขากันเป็นอย่างมาก ที่สำคัญเขายังไปกวาดรางวัลในด้านการแสดงมาครอบครองอย่างนับไม่ถ้วนและนอกจากที่เขาจะเป็นนักแสดงที่เก่งและมากความสามารถแบบนี้แล้วเขายังเป็นนักร้องและเจ้าของกิจการอีกด้วย วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับเขากันดีกว่า ว่าทำไมชายคนนี้ถึงเป็นบุคลคลที่หลาย ๆ คนยอมรับและยกย่องให้เขาเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีความสามารถและประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของวงการ
ประวัติของ เจมี่ ฟ็อกซ์ (Jamie Foxx)
สำหรับคอหนังน่าจะรู้จักเขากันเป็นอย่างดีสำหรับนักแสดงมากความสามารถคนนี้เจ้าของบทบาทมากมายอย่าง เจมี่ ฟ็อกซ์ หรือ ชื่อเดิมว่า เอริค มอร์ลอน บิชอป ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น เจมี่ ฟ็อกซ์ ในภายหลัง เขานั้นเกิดวันที่13 ธันวาคม ค.ศ. 1967 ที่รัฐเท็กซัส อเมริกา ชีวิตในวัยเด็กของเขาก็ไม่ต่างจากคนอื่นสักเท่าไหร่ เพราะหลักจากที่เขาเกิดมาได้ไม่นานพ่อและแม่ของเขานั้นก็ได้ส่งเขาไปให้กับตาและยายเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก ๆ จนจบการศึกษาหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่าเขานั้นเรียนจบจากด้านดนตรีคลาสสิกที่มหาวิทยาลัยยูไนเต็ด สเต็ทส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในซานดิเอโก้ ซึ่งทำให้เขามีความสามารถในด้านการร้องเพลงเป็นอย่างมากและจากการที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยคุณตากับคุณยายอย่างเอสเตอร์ มารี และ มาร์ค แทลลี่ ทำให้เขานั้นสนิทสนมกับทั้งคู่มากกว่าพ่อและแม่ของตนเอง
จุดเริ่มต้นในการเข้ามาอยู่วงการของการแสดงสำหรับ เจมี่ ฟ็อกซ์
ในปี 1988 ถือเป็นจุดเริ่มในการก้าวเข้ามาอยู่ในโลกของการแสดงอย่างจริงจังโดยเขานั้นมีโอกาสได้รับงานด้านการแสดงหนังเรื่อง Coming to America โดยเขาได้รับบทเป็นตัวประกอบซึ่งเป็นถือว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ทำให้เขานั้นก้าวเข้ามาอยู่ในวงการแม้ว่าในเรื่องนี้เขาจะไม่มีชื่อในรายการชื่อนักแสดงเลยด้วยซ้ำหลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปพักใหญ่เขาห่ายหน้าจากวงการไปนานในปี 1999 เขาได้กลับมาเริ่มต้นการแสดงอีกครั้งโดยในครั้งนี้เขาได้รับเล่นในบทบาทของนักแสดงตลกในภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง Any Given Sunday ที่กำกับโดยผู้กำกับฝีมือดีอย่าง โอลิเวอร์ สโตน ในภาพยนตร์เรื่องนี้เขารับบทเป็นนักอเมริกันฟุตบอลซึ่งเขาก็ทำมันออกมาได้ดีเป็นอย่างมากไม่นานเขาก็เริ่มบทบาทมากขึ้นแถมยังได้รับบทบาทที่ดราม่าเพิ่มมากขึ้นในภาพยนตร์เรื่องต่อ ๆ มาเขาถือเป็นโอกาสที่ดีเป็นอย่างมากเพราะมันเป็นสิ่งที่ช่วยให้เขาเก่งขึ้นอย่างแน่นอน
หลังจากที่เขาเริ่มมีผลงานต่าง ๆ ที่เพิ่มมากขึ้นและค่อย ๆ เริ่มมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นมางานทางด้านการแสดงต่างก็วิ่งมาหาเขาและปี 2004 ถือว่าเป็นปีทองสำหรับเขาเลยก็ว่าเพราะในปีนี้เขาได้เล่นภาพยนตร์ที่ทำให้เขาโด่งดังเป็นอย่างมากนั้นก็คือภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง Collateral ซึ่งเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นระทึกขวัญแนวนีโอ-นัวร์ของอเมริกาในปี 2004 ที่ได้ถูกกำกับและอำนวยการสร้างโดย Michael Mann ผู้กำกับชื่อดังในตอนนั้น และในภาพยนตร์เรื่องนี้เองเขาได้แสดงประกบคู่กับนักแสดงสุดหล่ออย่าง ทอม ครูซ ซึ่งเป็นนักแสดงที่โด่งดังและหล่อเป็นอย่างมาก จากบทบาทนี้เองทำให้เขาได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขา ดาราสนับสนุนชายยอดเยี่ยมอีกด้วยและจากความโด่งดังนี้ทำให้เขามีโอกาสได้เข้าชิงในสาขา นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์สุดฮิตอย่างเรื่อง Ray ซึ่งเป็นภาพยนตร์แนวละครเพลงและที่สำคัญในปีเดียวกันนี้ทำให้เขากลายเป็นนักแสดงที่มีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 2 สาขาภาพในปีเดียวกันนั้นเอง ภายหลังทำให้เขานั้นมีผลงานเรื่องอื่น ๆ ออกมาให้เราชมกันอยู่มากมายแถมยังกวาดรายได้ไปแบบถล่มทลายอยู่หลายเรื่อง
นักแสดงมากความสามารถที่ไม่ได้มีดีเพียงแค่การแสดงเท่านั้น
นอกจากผลงานทางด้านการแสดงแล้วอย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นเขายังมีความสามารถในด้านการแสดงที่เรียนได้ว่าไม่แพ้ด้านการแสดงอย่างแน่นอนเพราะเขานั้นเรียนเปียโนตั้งแต่ยังเด็ก ๆ และยังฝึกฝนอยู่ตลอดมาและเขานั้นยังออกอัลบั้มที่มีชื่อว่า Peep ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกของเขาซึ่งในขณะนั้นเขายังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแถมยังเคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่อีกด้วยหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้ออกอัลบั้มที่สองที่ใช้ชื่อว่า Unpredictable แถมยังโชคดีที่ได้ คอนยี ทวิสต้า และ ลูดาคริส มาร่วมร้องด้วย ทำให้อัลบั้มนี้มียอดขายมากที่สุดในสัปดาห์แรกโดยมียอดขายแบบถล่มทลายสูงถึง 598,000 แผ่น ที่สำคัญเขานั้นยังเป็นศิลปินคนที่ 4 ในสหรัฐอเมริกาที่ได้รับรางวัลออสการ์และมีเพลงติดอันดับ 1 ในบิลบอร์ด ถัดจาก แฟรงค์ ซินาตร้า บิง ครอสบี้ บาร์บร่า สไตรแซนด์ และยังได้ออกอัลบั้มที่สามในเวลาต่อมาโดยได้ใช้ชื่อว่า Intuition peoplelikeuscollective บาคาร่าออนไลน์
เครดิต เจมี ฟ็อกซ์ – วิกิพีเดีย
Credit สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ