หลาย ๆ คนคงจะเห็นข่าวเกี่ยวกับนางสาวไทยคนล่าสุดกันไปบ้างแล้วเราก็ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะและผู้เข้าประกวดทุกท่านแต่วันนี้เราจะมาพูดถึงนางสาวไทยคนที่ล่าสุดของเรากันดีกว่าเพราะกว่าที่ผู้เข้าประกวดแต่ละท่านจะผ่านมาถึงรอบต่าง ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนมาทำความรู้จักกับนางสาวไทยคนล่าสุดของเรากันดีกว่าเขาคือใคร มีความสามารถอะไรถึงได้คว้ารางวัลนางสาวไทยคนที่ 53 มาครอบครอง
ประวัติของ มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์ นางสาวไทยคนที่ 53
นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมากสำหรับแฟน ๆ ที่ติดตามวงการนางสาวไทยวันนี้เราได้ได้ทราบผลกันไปแล้วใครที่มารับตำแหน่งนางสาวไทยคนที่ 53 นั้นก็คือ มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์ หรือที่หลาย ๆ คนเรียกเธอว่า นิต้า เธเป็ยสาวสวยลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เธอนั้นเกิดและโตที่จังหวัดภูเก็ต ประเทษไทยซึ่งปัจจุบันเธอมีอายุ 25 ปี ในอดีตเธอนั้นจบการศึกษามาจากวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะคอมมูนิเคชัน อาร์ต ในระดับปริญาตรีและที่สำคัญเธอนั้นยังจบมาด้วยการได้เกียรนิยมอันดับ 1 อีกด้วยทำให้เธอนั้นมีความรู้และความสามารถที่เต็มเปี่ยม หลังจากเรียนเรียนจบมาได้ไม่นานเธอก็เริ่มทำงานทันทีโดยเธอนั้นมีอาชีพเป็นถึง เซลล์เมเนเจอร์ และเธอยังเป็นครูอาสาให้กับทางโรงเรียนวัดบางไผ่นารถ อ.บางเลน จ.นครปฐม ในตำแหน่งวิทยากรพิเศษที่ส่งเสริมการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารซึ่งโรงเรียนแห่งนี้ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่ขาดแคลนและเธอเองก็ยังรู้สึกดีใจเป็นอย่างที่มีโอกาสได้ทำงานนี้
จุดเริ่มต้นที่สำคัญที่ทำให้ มานิตา นั้นเริ่มหันมาเดินในเส้นทางของการประกวด
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2017 ในช่วงนั้นเธอเริ่มสนใจการประกวดอย่างจริงจังและเริ่มต้นการประกวดด้วยการเข้ามาประกวดมิสแกรนด์และคว้ารางวัลรองชนะอันดับ 1 มิสแกรนด์ภูเก็ต 2017 มาครอบครงนั้นถือเป็นรางวัลแรกและยังเป็นจุดเริ่มต้นของเธอในการเดินสายการประกวดในวงการนางงาม หลังจากนั้นต่อมาในปี 2018 เธอได้ตัดสินใจเข้าร่วมการประกวดมิสเวิลด์ไทยแลนด์ ซึ่งในปีนี้เธอตั้งใจกับการประกวดเป็นอย่างมากถึงขนาดฟิตหุ่นออกกำลังกายอย่างหนักและยังควบคุมอาหารทำให้เธอนั้นลดน้ำหนักไปได้มากถึง 40 กิโลกรัมเลยทีเดียวแต่ในการลดหุ่นในครั้งนี้เธอทำไปเพราะเพื่อที่จะเข้าร่วมการประกวดแถมยังทำให้เธอนั้นสวยและโดดเด่นเป็นอย่างมาก แต่ก็น่าเสียดายแม้ว่าเธอจะไม่ได้มงกุฎมาครอบครองเธอก็ยังได้รางวัลท็อป 12 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 แต่นั้นไม่ทำให้เธอนั้นผิดหวังหรือหมดไฟในการประกวดแต่อย่างใดตัวของเธอเองก็ยังคงมุ่งมั่นออกกำลังกายและดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้พร้อมกับการประกวดในครั้งต่อไป
นิต้า – มานิตา กลับมาลงสนามอีกครั้งกับการประกวดนางสาวไทยปี 2022
หลังจากที่เธอผ่านการประกวดมาแล้ว 2 สนามเธอก็ห่างหายจากวงการไปสักพักเนื่องจากเธอนั้นออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากขึ้นโดยการไปเป็นครูอาสาที่โรงเรียนวัดบางไผ่นารถ จ.นครปฐม ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลทำให้ขาดแคลนและโอกาสเกี่ยวกับการเรียนการสอนในหลาย ๆ อย่างทำให้เธอนั้นได้นำเรื่องราวดี ๆ นี้มาบอกเล่าในเวทีการประกวดโดยเธอได้เล่าว่า ตัวเธอนั้นถึงจะเกิดและโตที่ภูเก็ตแต่ของเธอนั้นก็เป็นคนเชียงรายทำให้เธอได้มีโอกาสไปเชียงรายอยู่บ่อยครั้งทำให้เธอนั้นได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมของทั้งสองจังหวัดเป็นอย่างดีทำให้เธอนั้นเห็นภาพความเป็นอยู่ของคนในชนบทว่าปีปัญหาและขาดแคลนอะไรหลาย ๆ อย่างและในด้านของการศึกษาเธอรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญมากและควรจะเป็นสิ่งขั้นพื้นฐานที่เด็ก ๆ หลายคนควรได้รับ
หลังจากที่เธอได้ลองมาเป็นครูอาสามันก็ทำให้เธอรู้สึกว่าเธอนั้นนับถือคนที่เป็นครูจริง ๆ เพราะในการเตรียมเอกสารต่าง ๆ รวมไปถึงการเตรียมเรื่องราวที่จะไปสอนนั้นมีเยอะแยะมากมายและในเฉพาะช่วงโควิด-19แบบนี้เป็นอะไรยากและสำบากมากพอสมควรแถมในบางพื้นที่การศึกษาต่าง ๆ ก็แทบจะเข้าไม่ถึงเลยด้วยซ้ำและการที่ทำได้มาทำเป็นครูอาสาในครั้งนี้ทำให้เธอเองมองเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างว่าถ้าเด็ก ๆ เหล่านี้ได้รับสื่อการเรียนการสอนที่ดี สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตหรือระบบที่จะช่วงเพิ่มความรู้ ความสามารถให้กับเด็ก ๆ ได้ ก็อาจจะทำให้พวกเขานั้นเป็นเด็กที่มีจินตนาการ มีความคิดริเริ่มอะไรใหม่ ๆ และมีโอกาสพัฒนาตัวเองไปให้ไกลมากกว่านี้ ไม่ใช่อยู่เพียงแค่ในบริเวณโรงเรียน บ้าน หรือกรอบความคิดเดิม ๆ ที่สำคัญหากเด็กมีโอกาสได้รับความรู้ที่มากขึ้นเธอเชื่อว่าเด็ก ๆ เหล่านี้ต้องอยากนำความรู้ที่ตนเองมีนั้นกลับมาพัฒนาบ้านเกิดกันอย่างแน่นอน
นี้เป็นคำตอบและเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นอย่างมากทำให้ผู้ชมและกรรมการหลาย ๆ ท่านนั้นมองเป็นเสียงเดียวกันเธอนั้นคู่ควรกับตำแหน่งนางสาวไทยคนที่ 53 เป็นอย่างมากและเธอก็คว้ารางวัลนี้มาครอบครองได้ในที่สุด peoplelikeuscollective
เครดิต นิต้า มานิตา คว้าตำแหน่ง นางสาวไทย คนที่ 53 สวยเฉียบสมมง
เครดิต : สล็อตแตกง่าย