“แดดจ๋าพี่มาแล้ว” วลีนี้หลาย ๆ คนน่าจะได้เห็นและทราบกันดีว่าที่มานั้นเป็นอย่างไร เร็ว ๆ นี้เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่กำกลังมาแรงเป็นอย่างมากเมื่อนักแสดงสุดเท่นี้ได้ออกมากิจกรรมต่าง ๆ มากมายท้าแสงแดดร้อน ๆ เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการขี่เจ็ทสกี ขับรถ รวมไปถึงการถ่ายทำละครก็ไม่มีอะไรที่จะหยุดพลังของหนุ่มคนนี้ได้และในกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้เราก็จะได้เห็นเขากินใบกระท่อมกันสด ๆ ผ่านการไลฟ์สดของเขาพร้อมกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมายจนเป็นที่มาของ “พลังใบ” วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนมาทำความรู้จักกับหนุ่มสุดเฟี้ยวคนนี้กันดีกว่า ว่าทำไมเขานั้นกลายเป็นที่จับตามองของใครหลาย ๆ คนในเวลานี้
ประวัติของ บีม – ศรัณยู ประชากริช พ่อหนุ่มพลังใบ
ไม่ต้องแปลกใจที่ในช่วงนี้เราเลื่อน ๆ Facebook อยู่ดี ๆ แล้วจะเห็นวิดิโอของหนุ่มคนนี้ผ่านขึ้นหรือหลาย ๆ คนอาจจะแชร์มีมที่เกี่ยวกับ พลังใบ ที่มานั้นมาจากชายที่มีชื่อว่า ศรัณยู ประชากริช ชื่อเล่น บีม นักแสดง พิธีกรและดีเจชาวไทย เขานั้นเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2526 ในวัยเด็กของเขานั้นเรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเพราะเขาเป็นถึงลูกชายคนโตของ นายรุ่งโรจน์ ประชากริช และ นางวีณา ประชากริช เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดชื่อดังอย่าง ป.รุ่งโรจน์อะไหล่ยนต์ แห่งวงการอะไหล่รถยนต์ของหลายยี่ห้อดังในประเทศไทยทำให้ช่วงวัยเด็กของเขานั้นค่อนข้างที่จะจัดจ้านเลยก็ว่าได้โดยเขาเล่าว่าช่วงที่กำลังเรียนอยู่ ม.2 นั้นเขาก็เริ่มที่จะขอพ่อเขาซื้อรถ รวมไปถึง การทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เด็กวัยอย่างเขานั้นไม่ควรทำ ไม่ว่าจะเป็นแข่งรถ โดดเรียน สูบบุหรี่ เที่ยวเทคและผับต่าง ๆ มากมาย ทำให้หลังจบ ม.6 เขาก็เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพทันทีแต่ก็น่าเสียดายที่เขานั้นเรียนอยู่ได้แค่ปีเดียวเท่านั้นก็ตัดสินใจเลิกเรียนและบินไปญี่ปุ่นเพื่อศึกษาใหม่อีกครั้ง
หลังจากที่ไปถึงญี่ปุ่นเขาก็ได้ไปอยู่ที่เมืองโอซาก้าและได้ศึกษาเกี่ยวกับในสาขา Business แต่ก็เหมือนเคยเขาเรียนอยู่ที่นั้นได้ไม่นานเขาก็เลิกเรียนไปในที่สุดเพราะคิดว่านี้ยังไม่ใช่ทางของเขาแถมตอนที่เรียนอยู่ที่ญี่ปุ่นนั้นเขาก็ยังเรื่องกับยากูซ่าอีกด้วยทำให้เขาต้องหนีกลับประเทศไทยในที่สุด แถมทางบ้านยังต้องจ่ายเงินให้กับพวกยากูซ่าอีกด้วยทำให้เขานั้นต้องย้ายไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาในสาขาออกแบบภายใน ที่สถาบันศิลปะแห่งซานฟรานซิสโกจนกระทั่งเรียนจบจึงได้ย้ายกับมาทำงานที่ประเทศไทย
จุดเริ่มต้นในวงการบันเทิงของ บีม – ศรัณยู
หลังจากที่เขากลับมาถึงประเทศไทยก็มีโอกาสได้มาทำงานด้วยการเป็นดีเจทันทีโดยได้เข้ามาเป็นดีเจของคลื่นสุดฮิตอย่างคลื่น 95.5 เวอร์จิ้น ฮิตซ์ไม่นานนักก็มีโอกาสก้าวเข้ามาเป็นพิธีกรของทางช่อง 3 ในรายการ สีสันบันเทิงสด ก่อนจะผันตัวเองกลายมาเป็นนักแสดงของทางช่อง 3 อีกด้วยโดยเราจะเห็นได้จากการที่เขานั้นได้ร่วมแสดงอยู่ในละเรื่อง เสน่หาเงินตรา, อนันตาลัย, เพลงดินกลิ่นดาว แต่ด้วยผลงานที่หนุ่มบีมแสดงออกมาแต่ละครั้งนั้นก็เรียกได้ว่าทุ่มสุดตัวทำให้เจ้าตัวเองนั้นมีผลงานออกมาจากอยู่หลาย ๆ เรื่องแถมยังได้ร่วมงานกับทางช่อง 7 โดยการเป็นพิธีกรรายการ เมาท์สะเด็ด 7 สี และรายการสุดฮิตอย่าง APOP TONIGHT ของทางช่องอมรินทร์ทีวีอีกด้วย
และในช่วงปี 2552 มีข่าวฉาวเกิดขึ้นกับตัวของเขาเกี่ยวกับการที่ว่าเขานั้นขับรถชนแล้วหนีเป็นคดีความขึ้นหน้าหนึ่งอยู่พักใหญ่แถมตัวรถนั้นเจ้าตัวยังทำเลียนแบบสีรถของตำรวจอีกด้วยทำให้เกิดเป็นประเด็นในสังคมอยู่พักใหญ่ไม่นานทางตำรวจจึงต้องตรวจสอบรถของเขาและพบว่าภายในรถของบีมนั้นตรวจพบอาวุธปืน ขนาด .22 อยู่ 1 กระบอกซึ่งเป็นของผู้อื่นและยังพบมีดสปาต้าอีก 1 เล่มรวมไปถึงกุญแจมือ วิทยุสื่อสารแบบของตำรวจ เครื่องช็อตไฟฟ้า อีกด้วยซึ่งเจ้าตัวก็ได้ออกมาบอกว่าของหลาย ๆ อย่างเอาไว้ใช้ป้องกันตัวส่วนรถมีไว้ใช้อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใหญ่ที่รู้จักและถ่ายงานละครนี่ทำให้เขาต้องห่างหายจากวงการไปอยู่พักหนึ่ง
บีม พลังใบ ประเด็นดราม่าสุดฮอตบนโลกออนไลน์
ในช่วงนี้เราจะเห็นคลิปของหนุ่มบีมโผล่ออกมาในโลกออนไลน์เป็นอย่างมากโดยเป็นคลิปของหนุ่มบีมเคี้ยวใบกระท่อมพร้อมกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ไปด้วยเช่นการขับรถ ขี่เรือ ถ่ายละคร รวมไปถึงการทำกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ ซึ่งก็ทำให้หลาย ๆ คนออกมาแสดงความเห็นกับสิ่งนี้กันเป็นจำนวนมากว่าเป็นสิ่งที่เสี่ยงและอันตรายเป็นอย่างมากเพราะการขับรถพร้อมกับแสดงกิจกรรมที่หวาดเสียวและอาจจะก่ออุบัติเหตุกับประชาชนทั่ว ๆ ไปได้หลักจากที่เรื่องนี้เป็นประเด็นเจ้าตัวเองก็ได้ออกมายอมรับกับสื่อว่าจะปรับปรุงตัวเองไม่ให้เกิดเรื่องนี้อีกรวมถึงออกมาขอโทษกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไปทั้งนี้เขายังยืนยันอีกว่าตัวเขานั้นไม่ได้เคี้ยวกระท่อมทุกวันที่เห็นในคลิปคือไลฟ์สไตล์ที่เขาตั้งใจถ่ายคลิปไปเพียงเท่านั้น หนุ่มบีมกล่าว peoplelikeuscollective
เครดิต ประวัติ บีม ศรัณยู ประชากริช (trueid.net)
เครดิต : ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ