เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในนักแตะไทยที่มีสาว ๆ หลาย ๆ คนชื่นชอบกันเป็นอย่างมากเพราะหน้าตาของนักแตะคนนี้เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาขึ้นแท่นเป็นเป็นพระเอกยังได้เลยแต่นอกจากจะหล่อแบบขมเข้มแบบนี้แล้วฝีเท้าเรื่องฟุตบอลก็เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเช่นกันหลาย ๆ คนคงจะได้เห็นฝีไม้ลายมือของเขาผ่านการแข่งขันในหลาย ๆ รายการกันมาบ้างแล้ววันนี้เราจึงอยากพาทุกคนมาทำความรู้กับนักแตะหนุ่มหน้ามนสุดหล่อคนนี้กันดีกว่าว่าทำหนุ่มลูกครึ่งสวิตคนนี้ถึงได้ก้าวเข้ามาอยู่ในวงการฟุตบอลจนกลายเป็นนักแตะเบอร์ต้น ๆ ของประเทศไทย
ประวัติของนักแตะสุดหล่ออย่าง ชาริล ชับปุยส์
หลักจากที่มีโอกาสได้ก้าวเข้ามาเล่นอยู่ในประเทศไทยก็ทำให้เขานั้นได้กลายเป็นนักแตะขวัญใจสาว ๆ ขึ้นแท่นเป็นนักแตะสุดหล่ออันดับต้น ๆ ของเมืองไทย จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขาคนนี้ ชาริล ชับปุยส์ หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า ชาริล ยานนิส ชาปุย นักฟุตบอลสุดเท่ลูกครึ่งไทย-สวิตเซอร์แลนด์ เขานั้นเกิดเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2535 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวัยเด็กของเขานั้นต้องบอกเลยคลุกคลี่มากับวงการฟุตบอลมาตั้งแต่ ๆ เด็ก ๆ เพราะว่าเขานั้นเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุได้ 7 ปี โดยได้ฝึกเล่นกับคุณพ่อของเขาอย่าง ดาเนียล ชัปปุยส์ ที่เป็นชาวสวิสและคุณ ไพลิน ชัปปุยส์ ที่เป็นชาวไทย เขานั้นจบการศึกษาระดับเกรด 12 จากโรงเรียนกีฬาในเมืองโคลเทินทำให้เขามีความชื่นชอบและสนใจเกี่ยวกับฟุตบอลเป็นอย่างมาก จนทำให้ตัวเองนั้นได้มีโอกาสเข้าไปเล่นฟุตบอลระดับเยาวชนให้กับสโมสรโคลเทิน และนั้นทำให้เขากลายมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพเหมือนทุกวันนี้
จุดเริ่มต้นที่ทำให้ ชาริล ชับปุยส์ ก้าวเขามาอยู่ในวงการลูกหนังจนประสบความสำเร็จ
หลังจากที่เขาได้มีโอกาสร่วมเล่นให้กับสโมสรโคลเทินหลังจากนั้นไม่นานก็ถูกดึงตัวและได้ย้ายมาเล่นให้กับสโมสรเอสซี ยังเฟลโลวส์ยูเวนตุสซึ่งเขาก็ได้ทำผลงานได้ค่อนข้างดีไม่นานก็ได้มีโอกาสย้ายเข้ามาเล่นในลีคที่ใหญ่ขึ้น โดยเขานั้นได้ย้ายมาอยู่ทีมชุดเยาวชนของสโมสรกราสฮอปเปอร์ ซูริก ในสวิสซูเปอร์ลีก ในขณะที่เขาได้เขามาอยู่ในทีมชุดเยาวชนนี้เขาก็ได้ลงเล่นในทีมกราสฮอปเปอร์ ซูริก 2 ซึ่งเป็นทีมสำรองที่ได้ลงแข่งขันแม้ว่าตัวเขาเองนั้นจะไม่ได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่อย่างทีมกราสฮอปเปอร์ แต่ก็ยังมีชื่อติดเป็นตัวสำรองของทีมอยู่ตลอดแต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกไม่ดีเลยสักครั้งแถมยังลงเล่นได้เป็นอย่างดีในขณะที่ลงกับชุดทีมสำรองอย่าง กราสฮอปเปอร์ ซูริก 2 โดยนัดแรกที่เขามีโอกาสลงเล่นนั้นเป็นนัดเปิดบ้านซึ่งเขาแสดงผลงานออกมาได้ดีเป็นอย่างมากโดยได้ถล่มสโมสรเอสเฟา ชัฟเฮาเซิน ไปถึง 6-1 ด้วยกัน แต่ในช่วงปี 2553 เขาได้มีโอกาสลงเล่นให้กัลทีมชุดใหญ่ของกราสฮอปเปอร์ 1 นัด ซึ่งเป็นนัดที่ได้ไปเยือนสโมสร แบร์โรช กอร์กีเย ในฟุตบอลถ้วยสวิส คัพ รอบแรกนั้นเอง
หลังจากที่โชว์ผลงานออกมาค่อนข้างดีในปีต่อมาเขาก็มีโอกาสที่ดีได้ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรโลการ์โน ในระดับแชลเลนจ์ ลีก ซึ่งเป็นดิวิชั่น 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีดาวิเด โมรันดีเป็นผู้ที่คุมทีมโดยการย้ายมาในครั้งนี้นั้นเขาย้ายมาด้วยสัญญายืมตัวแถมเขายังได้ลงสนามให้กับทีมในนัดแรกทันทีซึ่งเป็นนัดที่พวกเขาต้องออกไปเยือนสโมสรโวห์เลน ที่สนามนีเดอร์แมทเทน ก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวกลับมาเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเกมส์และในฤดูกาลนี้ลงสนามไป 28 นัดและทำประตูในลีกได้อีก 2 ประตูซึ่งเป็นนัดที่บุกไปชนะสโมสรเอฟซี วิล 2-1 ที่สนามแบร์กฮอลซ์ พาทีมได้ติดอันดับที่ 9 ของตารางก่อนจะจบฤดูกาลก็ทำให้เขานั้นเริ่มกลายเป็นแตะที่น่าจับตามองเป็นอย่างทำให้เขานั้นถูกยืมตัวอีกครั้งจากทีม เอฟซี ลูกาโน เป็นระยะเวลา 5 เดือนที่สำคัญการลงนัดแรกของเขาได้เปิดบ้านชนะเอฟซี วิลทีมเจ้าเก่าที่เจ้าตัวเคยไปทำประตูมาแล้วโดยได้พาทีมชนะไปถึง 3-1 ที่สนามคอร์นาเรโด
ขอต้อนรับสู่ไทยลีค
ในปี 2556 เขาก็ได้ตัดสินใจย้ายเข้ามาเล่นฟุตบอลในประเทศไทยด้วยสัญญา 2 ปีเต็มร่วมกับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำให้เขานั้นได้ลงเป็นตัวจริงตั้งแต่นัดแรกโดยได้พบกับบริสเบน โรอา ที่เป็นทีมมาจากประเทศออสเตรเลียในศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ที่สนามนิวไอโมบายสเตเดียมและเริ่มผลงานเป็นอย่างมากเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และโชว์ผลงานออกมาได้ดีเป็นอย่างมากทำให้ทาง สุพรรณบุรี เอฟซี ต้องขอยืมตัวนักแตะหนุ่มคนนี้มาเล่นจนจบฤดูกาลและการที่มาอยู่ในครั้งนี้ทำให้เขานั้นได้ลงเล่นมากยิ่งขึ้นและกลายเป็นตัวจริงของทุกการแข่งขันและหลังจากหมดสัญญาเจ้าตัวก็ได้ย้ายไปอยู่กับทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด ในปี 2017-0219 และทีมการท่าเรือ ตั้งแต่ปี 2020 – ปัจจุบัน peoplelikeuscollective
เครดิต ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ