หากพูดถึงนักฟุตบอลที่สามารถยิง แฮททริกได้ในทุกปี มาตลอดในรอบ 15 ปี หลาย ๆ คนก็คงจะนึกถึงอยู่ไม่กี่คน แต่ถ้าหากบอกว่าเป็นนักเตะที่สามารถยิงประตูได้มากกว่า 800 ประตู ตลอดอาชีพการค้าแข้งในระดับลีกชั้นนำ ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก สุดยอด G.O.A.T แห่งวงการฟุตบอลอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สุดยอดดาวยิงชาวโปรตุเกส กับเส้นทางที่กว่าจะมาเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน อย่างแน่นอน ซึ่งในบทความเรื่องนี้ เราก็จะพาทุกคนไปทำความรู้จักประวัติส่วนตัว และ เส้นทางการค้าแข้งของชายคนนี้กัน ว่ากว่าจะมีวันนี้ได้นั้นไม่ใช่เพราะพรสวรรค์และโชค แต่เป็นการลงมือทำเท่านั้น ซึ่งจะมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง เราไปรับชมกันเลยครับ
คริสเตียโน่ โรนัลโด้
- ชื่อเต็ม : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดอส ซานโต๊ส อเวโร่
- เกิด : 5 กุมภาพันธ์ 1985 ที่เมืองมาเดรา ประเทศโปรตุเกส
- อายุ : 37 ปี
- สัญชาติ : โปรตุเกส ส่วนสูง : 187 เซนติเมตร
- ตำแหน่ง : กองหน้า/ปีก
- ปัจจุบันเล่นให้กับทีม : al nassr ในลีกชั้นนำของซาอุดิอาราเบีย
เส้นทางการค้าแข้งของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
- สโมสรสปอร์ติ้ง ลิสบอน โรนัลโด้ เริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลด้วยการเข้าทีมเยาวชนของ Andorinha ตอนอายุ 6 ขวบ ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ Nacional ในอีก 2 ปีต่อมา และฉายแววโดดเด่นจนได้เข้าสู่อคาเดมีของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน สโมสรยักษ์ใหญ่ของโปรตุเกส ในวัย 12 ปี ในทีมอคาเดมี่ โรนัลโด้ พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้อย่างโดดเด่น ทำให้ได้รับโอกาสลงสนามถึง 31 นัดในทุกรายการ ยิงได้ 5 ประตู ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับแข้งดาวรุ่งวัย 17 ย่าง 18 ปีเท่านั้น พร้อมกับตกเป็นเป้าหมายที่สโมสรดังทั่วยุโรปเริ่มให้ความสนใจ หลังจากนั้น จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่น เมื่อเดือนสิงหาคม 2003 ซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน และเกมจบลงด้วยชัยชนะของ ลิสบอน 3-1 พร้อมกับฟอร์มสุดโหดของ โรนัลโด้ ซึ่งเล่นงานเกมรับของทีมผีแดงจนปั่นป่วนตลอดทั้งเกม ถึงขั้นที่บรรดานักเตะต้องไปบอกกุนซือ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ให้รีบไปกระชากตัวเจ้าดาวรุ่งฝอยทองคนนี้มาร่วมทีมโดยด่วน “หลังจากเกมที่เราเจอกับสปอร์ติ้ง พวกลูกทีมผมต่างพูดถึงเขา แบบไม่หยุดเลยในห้องแต่งตัว และตอนขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับหลังจบเกม พวกเขาก็มากระตุ้นให้ผมรีบไปเซ็นคว้าตัวมาเร็วๆ เลย เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นดาวรุ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยนะ” เฟอร์กี้ กล่าว และผ่านไปอีกแค่สัปดาห์เดียว เจ้าหนูโรนัลโด้ วัย 18 ปี ก็มายืนโดดเด่นเป็นสง่าที่อยู่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยค่าตัว 12.24 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิตินักเตะ “วัยทีน” ที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ณ เวลานั้น
- สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การย้ายมายังถิ่นปีศาจแดง โรนัลโด้ ร้องขอเสื้อหมายเลข 28 ซึ่งเป็นเบอร์เดียวกับที่เขาใส่กับสปอร์ติ้ง ลิสบอน แต่เฟอร์กี้กลับมอบเสื้อหมายเลข 7 ให้กับเขา ซึ่งเป็นเบอร์ของแข้งระดับตำนานอย่าง จอร์จ เบสต์, ไบรอัน ร็อบสัน, เอริค คันโตน่า และ เดวิด เบ็คแฮม หากเป็นดาวรุ่งคนอื่น อาจจะกดดันจนโชว์ฟอร์มไม่ออก แต่ไม่ใช่กับเด็กหนุ่มที่ชื่อ โรนัลโด้ ซึ่งใช้เบอร์ 7 เป็นแรงผลักดันให้ตัวเองต้องก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดผู้เล่นเหมือนตำนานเหล่านั้นให้ได้ ยิ่งบวกกับการมียอดกุนซืออย่าง เฟอร์กี้ ช่วยขัดเกลาและบ่มเพาะ ยิ่งทำให้ โรนัลโด้ พัฒนาฝีเท้าได้อย่างรวดเร็ว และเขย่าสังเวียนลูกหนังพรีเมียร์ลีกได้อย่างน่าทึ่ง โดยปีแรกกับแมนฯ ยูไนเต็ด ในซีซั่น 2003-04 เจ้าโด้เปรี้ยงปร้างมากนัก ซัดไป 6 ลูกจากการลงเล่น 40 นัดในทุกรายการ แต่หลังจากนั้น โรนัลโด้ค่อยๆ ปรับสไตล์การเล่นเพื่อทีมมากขึ้น ตลอดจนสภาพร่างกายและฝีเท้าที่แข็งแกร่งขึ้นตามลำดับ ทำให้โรนัลโด้ก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดนักเตะพรีเมียร์ลีกแบบไร้ข้อกังขา ด้วยผลงานพาแมนฯ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัยซ้อน ในฤดูกาล 2006-07, 2007-08 และ 2008-09 รวมถึงแชมป์อื่นๆ และเกียรติยศส่วนตัวอีกนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะในปี 2008 ซึ่งโรนัลโด้กวาดทั้งรางวัล บัลลงดอร์ และผู้เล่นยอดเยี่ยมของฟีฟ่ามาครองได้แบบสุดยอด
- สโมสร เรอัล มาดริด หลังจากตัดสินใจยุติเส้นทาง 6 ปีกับแมนฯ ยูไนเต็ด โรนัลโด้ย้ายมายัง “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกา สเปน ในฤดูกาล 2009-10 ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดของโลกในขณะนั้น และในการเปิดตัว โรนัลโด้ กับ มาดริด ปรากฏว่ามีแฟนบอลเข้ามาเป็นสักขีพยานที่สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว ถึง 80,000 คนเลยทีเดียว สำหรับการย้ายมายัง เรอัล มาดริด ซึ่งเต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์ระดับโลกคับทีม ยิ่งทำให้ โรนัลโด้ ยกระดับฝีเท้าและผลงานได้สุดยอดมากขึ้นไปอีก พร้อมกับกวาดทุกแชมป์ ทุกรางวัล ทุบสถิติต่างๆ ลงได้เป็นว่าเล่น เรียกได้ว่าเป็นจุดพีคของดาวยิงทีมชาติโปรตุเกสรายนี้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ โรนัลโด้ ค้าแข้งกับมาดริด 9 ฤดูกาล และมีสถิติถล่มประตูให้กับทีมอย่างเป็นกอบเป็นกำ ด้วยผลงานลงสนามไปทั้งสิ้น 438 นัดในทุกรายการ ทะลวงตาข่ายคู่แข่งไปถึง 450 ลูก เฉลี่ยแล้ว โรนัลโด้ ต้องมียิงได้ 1 ประตูในการลงสนามทุกนัด ส่วนเรื่องถ้วยแชมป์ โรนัลโด้คว้าโทรฟี่สำคัญกับเรอัล มาดริดทั้งแชมป์ลาลีกา 2 สมัย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ 3 สมัย และรางวัลบัลลงดอร์อีก 4 สมัย แต่หลังจากจบซีซั่น 2017-18 ก็ถึงเวลาที่ โรนัลโด้ ต้องเปลี่ยนสีเสื้ออีกครั้ง หลังจากไม่สามารถเจรจาเรื่องสัญญาฉบับใหม่กับมาดริดได้ลงตัว โดยเป็น “ม้าลาย” ยูเวนตุส มหาอำนาจแห่งศึกเซเรียอา อิตาลี ที่ยอมทุ่มเงิน 112 ล้านยูโร กระชากตัว โรนัลโด้ ในวัย 33 ปี ไปร่วมทีม พร้อมกับทำสถิตินักเตะอายุเกิน 30 ปีที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก ซึ่งหลังจากนั้นก็ย้ายกลับมาที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้งในวัย 36 ปี
เกียตรประวัติของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
- แชมป์พรีเมียร์ลีก : 2006–07 , 2007–08 , 2008–09
- แชมป์เอฟเอคัพ : 2003-04
- แชมป์ลีกคัพ : 2005–06 , 2008–09
- แชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์ : 2007
- แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก : 2007-08
- แชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ : 2008
เรอัล มาดริด
- แชมป์ลาลีกา : 2011–12, 2016–17
- แชมป์โกปา เดล เรย์ : 2010–11, 2013–14
- แชมป์สแปนิช ซูเปอร์คัพ : 2012, 2017
- แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก : 2013–14, 2015–16, 2016–17, 2017–18
- แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ : 2014, 2017
- แชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ : 2014, 2016, 2017
ยูเวนตุส
- แชมป์เซเรียอา : 2018–19, 2019–20
- แชมป์โคปปา อิตาเลีย : 2020–21
- แชมป์อิตาเลียน ซูเปอร์คัพ : 2018, 2020
ทีมชาติโปรตุเกส
- แชมป์ยูโร : 2016
- แชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก : 2018-19
รางวัลส่วนตัว
- รางวัลบัลลงดอร์ : 2008, 2013, 2014, 2016, 2017
- นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า : 2008
- นักฟุตบอลชายยอดเยี่ยม เดอะ เบสต์ ฟีฟ่า : 2016, 2017
- นักเตะยอดเยี่ยมสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (PFA) : 2006–07, 2007–08
- ติดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก : 2006–07, 2007–08
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมลาลีกา : 2013-14
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมเซเรียอา : 2019, 2020
- ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก : 2007-08
- ดาวซัลโวลาลีกา : 2010–11, 2013–14, 2014–15
- ดาวซัลโวเซเรียอา : 2020-21
สรุป
จากบทความเรื่องนี้ก็ทำให้เราเห็นได้ชัดนะครับ ขนาด โรนัลโด้ ที่มีสไตล์การเล่นฉายเดี่ยวเก่งกาจมากแค่ไหน ก็ยังต้องปรับตัวให้เข้ากับทุกทีม เพื่อความสำเร็จสูงสุดทุกครั้ง และสุดท้ายนี้เราก็หวังว่า บทความ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สุดยอดดาวยิงชาวโปรตุเกส กับเส้นทางที่กว่าจะมาเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน เรื่องนี้ จะถูกอกถูกใจเพื่อน ๆ ทุกคนกันนะครับ ส่วนในครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวของใคร โปรดติดตามรับชมกันด้วยนะครับ สวัสดีครับ