เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนกรุงเทพทุกคนที่ได้ผู้ว่า กทม. คนใหม่แล้วซึ่งปีนี้การเลือกตั้งนับว่าสนุกยิ่งนักเพราะผู้ลงสมัครเลือกตั้งทุกคนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ไฟแรงแม้ว่าจะมีคนรุ่นเก่าแต่ใจเก่ามีความคิดแปลกใหม่ทันคนหนุ่มสาวสมัยนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งปีของการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ที่สนุกดุเดือด และน่าสนใจเป็นอย่างมากวันนี้ทางเราจึงอยากพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับผู้ว่าของกรุงเทพมหานครคนใหม่กันดีกว่าว่าเขาเป็นใครและมีสิ่งใดที่อยากเปลี่ยนแปลงกรุงเทพบ้านเรากันบ้าง
ประวัติของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าคนใหม่ของกรุงเทพมหานคร
หลาย ๆ คนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีสำหรับชายที่แข่งแกร่งคนนี้ เขามีชื่อว่า ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีชื่อเล่นว่า ทริป เขานั้นเกิดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2509 มีพี่น้องร่วมกัน 3 คนโดยพ่อของเขาเป็นถึง พล.ต.อ.เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ส่วนพี่สาวมีชื่อ ดร.ปรีชญา สิทธิพันธุ์ เป็นอาจารย์ประจำภาควิชาสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนพี่ชายของเขานั้นหน้าตาคล้ายกันมากเพราะเป็นฝาแฝดกันนั้นเองซึ่งหลาย ๆ คนมักเรียกว่า หมอทัวร์ หรือ รศ. นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถมยังเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยอีกด้วย
ซึ่งแน่นอนทั้งพ่อและพี่ ๆ ของเขามีแต่คนเก่ง ๆ ตัวเองก็ต้องทำให้ได้เช่นกันนั้นเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เขานั้นตั้งสินใจเรียนด้านวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและได้คว้าเกียรตินิยมอันดับ 1 มาอย่างง่ายดายก่อนจะเรียนต่อวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมโครงสร้าง จากมหาวิทยาลัยชื่อดังจากอเมริกาอย่าง Massachusetts Institute of Technology และการเรียนรู้ของเขาก็ยังไม่สิ้นสุดยังคงมุ่งมั่นหาความรู้ด้วยการเรียนวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต University of Illinois at Urbana-Champaign จากสหรัฐอเมริกาและต่อปริญญาโทเกี่ยวกับบริหารธุรกิจ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำให้ความรู้และสามารถของเขาไม่เป็นสองรองใครนับว่าเป็นอีกหนึ่งหัวกะทิของประเทศไทยเลยก็ว่าได้
จุดเริ่มต้นของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ทำให้เขาหันมาสนใจและตัดสินใจลงเล่นการเมืองอย่างจริงจัง
ย้อนกลับไปช่วงที่เขาอายุได้ 28 ปีในตอนนั้นเขาทำหน้าที่เป็นอาจารย์และมีโอกาสได้เข้าไปช่วยดูพื้นที่ต่าง ๆ ของทางจุฬาฯ นานกว่า 7 ปี ทั้งเรื่องการสร้าง มาบุญครอง สยามสแควร์ ต่าง ๆ แต่พอถึงปี 2553 ก็ได้เกิดเหตุการ์ณการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในเวลานั้นซึ่งตัวของเขาเองก็อยู่ในพื้นที่และมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่แถวนั้น ทำให้เขามีโอกาสได้พูดคุยกับผู้ชุมนุมในพื้นที่ ไม่นานทหารก็ได้เริ่มเข้ามากันพื้นที่ทำให้เขาต้องตัดสินใจออกจากพื้นที่ไปก่อน พอตัวเขาออกมาได้สักพักเขาได้มองเห็นกลุ่มควันจากไฟไหม้ก็ทำให้เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากเพราะตัวเขาเองไม่สามารถดูแลทรัพย์สินของทางจุฬาฯ ได้
จนกระทั่งปี 2555 อดีตนายกยิ่งลักษณ์ได้โทรมาเชิญชวนให้เขามารับตำแหน่งรัฐมนตรีซึ่งตัวเขาเองไม่ได้รู้จักกับอดีตนายกยิ่งลักษณ์มาก่อนเลยด้วยซ้ำแต่คงมีคนแนะนำเขาให้เธอรู้จักทำให้เขาใช้เวลาตัดสินใจได้ไม่นานก็ตอบตกลงไปเพราะเขาอยากจะลองทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองดูสักครั้งจนได้ดำรงอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมตั้งแต่นั้นมาคอยดูเรื่องโครงการรถไฟความเร็วสูง โครงข่ายรถไฟฟ้าใน กทม. การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-ภูเก็ต โครงการทำแนวป้องกันน้ำท่วม กทม. ต่าง ๆ ที่สำคัญเขายังให้ความสำคัญกับการขนส่งระบบรางเป็นพิเศษ ซึ่งผลงานที่ได้รับความยอมรับว่าโดดเด่นจากใครหลาย ๆ คนในช่วงที่เป็นรัฐมนตรีนั้นได้แก่ การจัดซื้อจัดขบวนรถด่วนพิเศษ CNR จำนวน 8 ขบวน, การแก้แบบสถานีกลางบางซื่อให้รองรับรถไฟความเร็วสูง, การแก้แบบสายสีแดงเข้มจาก 3 ทางเป็น 4 ทาง, การเปลี่ยนรางรถไฟในภาคเหนือตอนบนทั้งหมด และที่สำคัญที่ให้ใครหลาย ๆ คนสนใจในตัวเขานั้นก็คือการที่เขาได้สั่งให้ข้าราชการระดับ 9 ขึ้นไปนั่งรถเมล์มาทำงานแล้วรายงานปัญหาต่าง ๆ เผื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จนหลาย ๆ คนต่างเรียกเขาว่า รัฐมนตรีติดดิน
ผลคะแนนเป็นเอกฉันท์ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คือผู้ว่า กทม. คนถัดไป
ในปี 2565 นี้เขาได้ตัดสินใจเป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามอิสระและจับสลากได้เบอร์ 8 โดยในปีนี้เขาได้เน้นนโยบายทางด้านคน สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี และเศรษฐกิจ และได้ใช้ชื่อการรณรงค์หาเสียงว่า “กรุงเทพฯ เมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน” โดยเขาได้วางแผนไว้ว่าจะทำให้กรุงเทพน่าอยู่โดยการสร้างเครือข่ายแผนที่จุดเสี่ยงอาชญากรรม พัฒนาระบบขนส่งมวลชน สร้างกรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองแห่งศิลปะและการเรียนรู้ เป็นต้น จนในที่สุดวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 หลังจากหีบเลือกตั้งได้ปิดลงก็เริ่มมีการนับคะแนนกันมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเวลาปัจจุบันคะแนนของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ได้นำโด่งไม่มีใครแซงเตรียมเป็นว่าที่ผู้ว่าฯ กทม.คนต่อไปอย่างแน่นอน ทั่งผู้สมัครคนอื่น ๆ ได้ออกมายอมรับผลการเลือกตั้งและยังสนับสนุนด้วยการเป็นให้ สก. ของตนเองคอยทำงานร่วมกับว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ให้อย่างเต็มที่ peoplelikeuscollective
เครดิต : เว็บสล็อต