ชายคนนี้คือหนึ่งในผู้บุกเบิกและรันวงการฮิปฮอปในประเทศไทยเจ้าของผลงานเพลงฮิปฮอปชื่อดังมากมายหลาย ๆ คนอาจจะเห็นเขาในรายการชื่อดังต่าง ๆ มามากมายรวมไปถึงบทเพลงของเขาที่ถ่ายทอดออกมาให้เราได้ฟังกันมาอย่างยาวนานนอกจากการทำเพลงแล้วเขายังเป็นนักแสดงอีกด้วยแต่แน่นอนกาลเวลาไม่สามารถฆ่าชายคนนี้ได้เช่นกันเพราะยิ่งเขาอายุมากขึ้นก็ยิ่งทำให้เขานั้นเท่เป็นอย่างมากเรียกได้ว่าเป็นหนุ่มมีอายุที่แซ่บที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนทำความรู้จักกับโปรดิวเซอร์หนุ่มหล่อสุดเท่คนนี้กันดีกว่าว่าเพราะอะไรเขาถึงได้กลายเป็นศิลปินฮิปฮอปที่หลาย ๆ คนนับถือกันเป็นอย่างมาก
ประวัติของ โจอี้ บอย (อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต)
หนุ่มหล่อสุดแซ่บผู้เป็นแร๊ปเปอร์ขวัญใจของใครหลาย ๆ คน ผู้ที่อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของวงการฮิปฮอปไทยเขาคนนี้มีชื่อว่า อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต มีชื่อเล่นว่าโจ้ หรือ โจอี้ เป็นชื่อที่ใครหลาย ๆ คนชอบเรียกกัน เขาเกิดวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2518 ที่กรุงเทพมหานคร ในวัยเด็กของเขานั้นเรียกได้ว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียวเพราะเขาเกิดในครอบครัวไทยเชื้อสายจีนโดยมีคุณพ่ออย่างนายสุนทรและคุณแม่อย่างนางวาริสา โอภาสเอี่ยมลิขิต คอยดูแลเอาใจใสเขาเป็นอย่างดีตั้งแต่เด็ก ๆ จนเรียนจบจากโรงเรียนเซนต์ดอมินิก (รุ่นที่ 23) ในระดับมัธยม ก่อนจะไปเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
จุดเริ่มต้นที่ทำให้ โจอี้ บอย เข้ามาอยู่ในวงการจนกลายเป็นศิลปินฮิปฮอประดับตำนาน
จุดเริ่มต้นของชายคนนี้คงจะต้องย้อนไปอดีตในช่วงที่แนวเพลงอย่างฮิปฮอปกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในอเมริกาซึ่งในช่วงแรก ๆ นั้นเขาก็มีโอกาสได้ฟังแนวเพลงนี้เป็นคนแรก ๆ ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ได้ฟังอยู่สักพักเขาก็รู้สึกชื่นชอบมันเป็นอย่างมากและเริ่มเขียนเพลงเองตั้งแต่อายุ 15 เขียนได้ไม่นานเขาก็มีโอกาสได้ออกอัลบั้มกับทางค่ายเพลงชื่อดังในตอนนั้นอย่าง Bakery Music ไม่นานทางค่ายก็ได้ตัดสินใจเรียกเขาให้เข้ามาออดิชั่นโดยการร้องเพลงที่บริเวณหน้าร้านของ เปี๊ยก ดีเจสยาม เพื่อที่เป็นการทดสอบว่าเขานั้นมีความสามารถและกล้าแสดงออกต่อหน้าคนหลาย ๆ คนมากแค่ไหน ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องแค่นี้เขาสามารถผ่านมาได้แบบสบาย ๆ อยู่แล้วทำให้หลังจากการทดสอบจบลงเขาก็ได้ออกอัลบั้มกับทางค่ายมากกว่า 7 อัลบั้มด้วยกัน
ในช่วงแรก ๆ นั้นหลังจากที่ได้ออกอัลบั้มมาประมาณ 2 อัลบั้มเขาก็ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมาเท่าไหร่ไม่นานเขาก็ได้ออกอัลบั้มที่ 3 โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า Fun Fun Fun การออกอัลบั้มในครั้งนี้กลับกลายเป็นว่ามันทำให้ตัวเขานั้นโด่งดังเป็นอย่างมากกลายเป็นศิลปินนอกกระแสที่มาแรงที่สุดในตอนนั้น กวาดยอดขายไปได้มากกว่าล้านชุดซึ่งสวนกระแสกับช่วงที่ประเทศไทยนั้นกำลังเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งพอดิบพอดีเขาได้กลายเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่ไฟเป็นอย่างมาก หลังจากที่เขาได้โด่งดังจนเริ่มมีคนรู้จักเพิ่มมากขึ้นเขาก็ออกอัลบั้มมาอยู่เรื่อย ๆ เขาก็ได้ตัดสินใจทำค่ายเพลงของตัวเองขึ้นมาโดยได้ใช้ชื่อว่า ก้านคอคลับ โดยมีศิลปินชื่อดังหลาย ๆ คนในค่ายของเขาที่เป็นกลุ่มบุกเบิกเลยก็ว่าได้ ซึ่งหลาย ๆ คนนั้นก็อาจจะรู้จักศิลปินเหล่านั้นก็เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็น กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ แร็ปเปอร์จากเมืองเหนือที่มีผลงาน Featuring มากมาย หรือจะเป็นวงฮิปฮอปชื่อดังอย่าง Buddha Bless และศิลปินคนอื่น ๆ อีกหลาย ๆ คน
แร๊ปเปอร์ผู้มีความสามารถหลากหลายไม่ใช่เพียงแค่ร้องเพลง
นอกจากผลงานที่โดดเด่นในด้านของการแต่งเพลงและการแร๊ปนั้นเขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่มีความสามารถหลากหลายเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นงานด้านการแสดงเขาก็ทำออกมาได้ดีเป็นอย่างมากอย่างเช่นการที่เข้าได้มีโอกาสเล่นภาพยนตร์เรื่อง เก๋าเก๋า ซึ่งได้รับบทบาทเป็นนักร้องวง The Possible ที่ทำให้เขานั้นต้องมาร้องเพลงแนวสตริงคอมโบ้ ซึ่งเขาก็แสดงความสามารถด้านการแสดงออกมาได้เป็นอย่างดีแถมยังได้ออกอัลบั้มพิเศษเพื่อใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย และในปัจจุบันเขาได้กลายมาเป็นศิลปินอิสระอย่างเต็มตัวแต่นั้นก็ไม่ทำให้งานของเขานั้นลดลงเลยแม้แต่น้อยเขายังสามารถถ่ายถอดผลงานให้เราได้ฟัง ได้ชมอยู่เรื่อย ๆ นอกจากนี้เขายังเป็นเป็นนักกีฬา พารามอเตอร์ ซึ่งมีน้อยคนมากนัก แถมเขายังเป็นนักกีฬาที่เก่งจนคว้าแชมป์ประเทศไทยมาครอบครองอย่างง่ายดายในช่วงปี 2554 แถมเจ้าตัวยังแอปไปคว้าเหรียญทองจากรายการเอเชี่ยนบีชเกมส์มาอีกด้วย และเรื่องที่หลาย ๆ คนยังไม่ทราบกันนั้นก็คือเขาได้ฝึกฝนการยิงธนูมาสักพักจนเจ้าตัวได้ก้าวเขามาเป็นนักกีฬายิงธนูอย่างตัวต้องบอกเลยว่าเขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่โด่ดเด่นและเก่งเป็นอย่างที่สำคัญเขายังเป็นมีธุจกิจด้านแฟชั่นที่เขาทำมาอย่างยาวนานอีกด้วย peoplelikeuscollective
เครดิต 7 ความสำเร็จสุดเจ๋งของ “โจอี้ บอย” เจ้าพ่อฮิปฮอปโค้ชเดอะวอยซ์!