เจมส์ กันน์ แฟนหนังหลายคนต้องรู้จักกันเป็นอย่าง หนึ่งในผู้กำกับฝีมือเยี่ยมอีกคนของ Marvel ที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่อง Guardians of the Galaxy ทั้ง 2 ภาค กวาดรายได้ไปอย่างถล่มทลายกลายเป็นภาพยนตร์ที่ได้กระแสตอบรับที่ดีจากจากทั้งผู้ชมคนดูและนักวิจารณ์ ซึ่งเขายังถูกวางตัวให้กำกับหนังภาค 3 และยังมีส่วนร่วมในการดูแลภาพรวมของหนังจักรวาล Marvel ทั้งหมด ก่อนที่จะถูก Disney ไล่ออกเนื่องจากโพสต์ข้อความไม่เหมาะสมไว้ในอดีตเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก
ประวัติของ เจมส์ กันน์
เจมส์ ฟรานซิส กันน์ จูเนียร์ หรือที่เรารู้จักกันดี เจมส์ กันน์ เขาเกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1966 เจมส์มีพี่น้องด้วยกัน 5 คน 1 ในนั้นคือ Sean Gunn (ฌอน กันน์) ที่เป็นนักแสดง เจมส์เกิดที่ เซนต์หลุยส์ มิสซูรี เจมส์และพี่น้องของเขาทั้งหมดต่างเรียนอยู่ที่เดียวกันหมดเลยนั้นก็คือ มหาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ ในขณะเจมส์เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยนั้น เขาได้มีโอกาสสร้างการ์ตูนเกี่ยวกับการเมืองสำหรับสอนนักเรียนทำให้เจมส์เริ่มสนใจมาตั้งแต่ตอนนั้น เจมส์ยังเป็นทั้งนักเขียนบท ผู้กำกับ ผู้สร้าง นักแสดง นักดนตรี และ นักวาดการ์ตูนชาวอเมริกันอีกด้วย
จุดเริ่มต้นของ เจมส์ กันน์
ในปี 1990 เจมส์ได้เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นนักเขียนบท และได้มีโอกาสได้เขียนบทให้หนังดังอย่าง Romeo and Juliet ต่อมาในปี 1996 เขียนบทให้กับภาพยนตร์การ์ตูนขวัญใจของใครหลาย ๆ คนอย่าง Scooby-Doo และ Scooby-Doo 2: Monsters Unleashed ทั้ง 2 ภาค หลังจากหายไปนานในปี 2004 เจมส์ได้มาเขียนบทให้กับหนังสยองขวัญรีเมคที่ทำเงินไปอย่างมหาศาลกับภาพยนตร์สุดฮิตอย่าง Dawn of the Dead อีกด้วย สล็อตแตกง่าย
ไม่นานเจมส์ก็ได้เริ่มเข้าสู่วงการผู้กำกับอย่างเต็มตัวในปี 2006 Slither คือภาพยนตร์เรื่องที่เจมส์ได้กำกับ จากนั้นเขาก็เริ่มทำงานเป็นผู้กำกับหนังแนว เว็บซีรีย์ ที่ฉายทางอินเตอร์เน็ตอย่าง James Gunn’s PG Porn และในปี 2010 ได้ลองกำกับหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่อย่างเรื่อง Super ก่อนที่เจมส์จะมาดังเปรี้ยงจากภาพยนตร์เรื่อง Guardians of the Galaxy ในปี 2014 นี้นั่นเอง
กระแสตอบรับจาก Guardians of the Galaxy เป็นที่ฮือฮาและได้คำชมจากแฟนหนังหลาย ๆ คนทำให้เจมส์ได้เขียนบทและกำกับต่อใน Guardians of the Galaxy Vol. 2 และเจมส์ยังได้ถูกจองตัวจาก Disney ให้มาเป็นผู้กำกับในภาคต่อของเรื่องอย่าง Guardians of the Galaxy Vol 3 แต่ก่อนจะได้เริ่มต้นเขียนบทเจมส์ก็ถูกทาง Disney ตัดขาดความสัมพันธ์เสียก่อน เหตุเพราะสิ่งที่เจมส์ได้ทวีตเมื่อในอดีต ทำให้เหล่าบรรดาแฟน ๆ ออกมาพูดเรื่องนี้กันเป็นจำนวนมากและยื่นเรื่องให้เจมส์ได้กำกับต่อกับทาง Disney
Disney เผยสาเหตุที่ไล่ เจมส์ กันน์ ออก
เพราะคำพูดของเจมส์เมื่อหลายปีก่อน สิ่งที่เขาโพสต์ลงในเน็ตทำให้ เจมส์ ถูกไล่ออกจากหน้าที่กำกับหนัง Guardians of the Galaxy Vol. 3 ไปโดยทันทีหลังจากที่มีคนมือดีไปขุดมาแฉว่า เจมส์เคยโพสต์ข้อความเชิงลามกอนาจาร ซึ่งเจมส์ได้เคยเขียนอะไรที่ไม่เหมาะสมไว้มากมายในอดีต แต่หลาย ๆ ข้อความนั้นดันออกแนวตลกที่บังเอิญไปเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กมากมาย แม้จะเป็นเพียงมุขตลกแต่หลาย ๆ คนก็มองว่านี่เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำแถมยังดูหยาบคายและลามกเกินไปเพราะในหลาย ๆ ข้อความนั้นออกแนวเอาเรื่องเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กมาและพูดถึงเหมือนมันเป็นเรื่องล้อเล่น
“ผมกำลังทำหนังใหม่เรื่อง Jerkloose ที่จะเล่าถึงเมืองเล็กๆ ที่การช่วยตัวเองเป็นเรื่องผิดกฎหมาย จนกระทั่งมีเด็กมัธยมคนหนึ่งมาโชว์การช่วยตัวเองต่อหน้าเพื่อนเพื่อบอกว่ามันมันส์แค่ไหน” และ “โรงแรมนี้น้ำฝักบัวเบาชะมัด เหมือนกำลังโดนเด็ก 3 ขวบ เยี่ยวรดหัวอยู่เลย” นี่คือตัวอย่างข้อความเพียงไม่กี่ข้อความเพราะยังมีอีกเป็นร้อยข้อความที่ เจมส์ได้เคยทวีตเอาในช่วงระหว่างปี 2007-2011
Walt Disney Studios ไม่นิ่งนอนใจอย่างแน่นอนเพราะกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นเด็กอย่างแน่นอน ทำให้ อลัน ฮอร์น ประธานกรรมการของ Walt Disney Studios ได้ออกแถลงการณ์บอกกับสื่อถึงเรื่องนี้ว่าขอตัดขาดการร่วมงานกันระหว่าง Walt Disney Studios กับ เจมส์ กันน์ เหตุเพราะว่า “ข้อความที่เจมส์ได้โพสต์ใน Twitter นั้นเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงทัศนคติของผู้กำกับเจมส์ที่ค่อนข้างรุนแรงเกินไปและเป็นสิ่งที่ทาง Walt Disney Studios ไม่สามารถปกป้องได้เลยแถมยังขัดแย้งต่อสิ่งที่ Walt Disney Studios ยึดถือมาตลอดด้วย Walt Disney Studios จึงขอตัดขาดกับเจมส์ทันที”
หลังจากเกิดเรื่องขึ้น เจมส์ ก็ได้ทวีตข้อความอธิบายถึงตัวเองในอดีตทันทีว่า “สำหรับหลาย ๆ คนที่ได้ติดตามผลงานของเจมส์มาตั้งแต่ต้น จะเห็นได้ว่าเจมส์มองตัวเองเป็นพวกเกเรตัวป่วนเพราะช่วงแรก ๆ เจมส์มักทำหนังที่มีเนื้อหาและเล่นมุขที่ค่อนข้างจะรุนแรง ซึ่งในตอนนั้นหลาย ๆ คนก็ได้บอกกับเจมส์เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาก็ได้พัฒนาตัวเองและเรื่องงานรวมถึงเรื่องมุขตลกต่างๆ ด้วย ซึ่งตอนนั้นกับตอนนี้เขาต่างกันมากแล้ว สิ่งที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมดคือเรื่องจริงและตอนนี้เขาก็ไม่ได้ทำแบบนั้นอีกแล้ว” เจมส์ ได้ทวีตหลังจากเกิดเหตุขึ้นทันที
นี่เป็นตัวอย่างที่ดีอย่างมากในยุคดิจิทัลสมัยนี้ โลกออนไลน์เปรียบเสมือนดาบสองคมที่สามารถย้อนมาทำร้ายเราได้ทุกเมื่อ เราต้องเรียนรู้แล้วยอมรับกับสิ่งที่อาจะเกิดขึ้นและพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราได้เขียนหรือทำเอาไว้ เราได้แต่หวังว่าเมื่อเราจะเขียนหรือจะทำอะไรออกไปในที่สาธารณะ ก็ควรคิดให้รอบคอบก่อนที่จะแสดงความเห็นหรือการกระทำออกไป
เครดิต mgronline.com