ชิน ชินวุฒ นักร้องหนุ่มเท้าไฟสุดฮอต

ติดอันดับหนุ่มหล่อสุดฮอตตลอดกาลสำหรับนักร้องหนุ่มเท้าไฟ ชิน ชินวุฒ หนุ่มหล่อที่ไม่ได้มีดีเพียงแค่หน้าตาอย่างเดียว แต่ทั้งการแสดงและการร้องเพลงก็ดีไม่แพ้กัน ทำให้ตัวของเขาเองนั้น โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมานานมากกว่า 16 ปี เรียกได้ว่าอยู่มานานและมีจุดผลิกผันของชีวิตอยู่ตลอดเวลา กว่าจะมีวันนี้ได้ ชิน ต้องผ่านอุปสรรค์มานับไม่ถ้วน

ประวัติของ ชิน ชินวุฒ

ชินวุฒ อินทรคูสิน หรือ ชิน เกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2532 ที่โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ กรุงเทพมหานคร ชินเป็นลูกครึ่ง ไทย-ฝรั่งเศส โดยมีพ่อเป็นคนไทยและแม่เป็นคนฝรั่งเศส ชินยังมีน้องสาวอีกหนึ่งคนซึ่งเป็นอดีตนักแสดงเหมือนกัน ชิน เรียนจบจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย จากนั้นได้เขาศึกษาต่อที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ จนจบการศึกษา ไม่นานหลังจากที่จบการศึกษา ชิน ชินวุฒ ก็ได้เข้ารับราชการทหาร หลักจากที่ได้ผ่อนผันมา

ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ ชิน ชินวุฒ อายุ 19 ปี ตอนนั้นชินได้ตัดสินใจก้าวขึ้นมาเป็นเสาหลักให้กับครอบครัว โดยให้คุณแม่เลิก จนกระทั่งปี 2559 ชินรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่รู้ว่าตัวเองต้องเป็นทหารเกณฑ์รับใช้ชาตินานถึง 2 ปี เพราะชินคือเสาหลักของครอบครัวกลัวทางครอบครัวจะมีปัญหาในเรื่องรายได้ แต่ในที่สุดวิกฤตตรงนั้นก็ผ่านไปหลังจากที่หนุ่มชินได้ปลดประจำการจากการเป็นทหาร ก็ได้กลับมาดูแลครอบครัวเหมือนเช่นเคยพร้อมกับงานที่วิ่งเขามาหาชินอย่างล้นหลาม

จุดเริ่มต้นในวงการของ ชิน ชินวุฒ

บิ๊กทรี (Big 3) วงบอยแบรนด์วัยรุ่นคือจุดเริ่มต้นในวงการบันเทิงของ ชิน ชินวุฒ ซึ่งตอนนั้น ชิน อายุเพียง 13 ปีเท่านั้น ซึ่งชินได้เป็นในสมาชิกของวันนี้และมีเพลงสุดฮิตอย่าง วัยรุ่นเซ็ง และเพลงชิ้งฉ่อง ไม่นานชินก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมโปรเจกต์ จี-จูเนียร์ 10 (G-JR 10 Club)  ซึ่งเป็นโปรเจกต์สุดฮอตที่สุดในยุคนั้นคือ และยังมีมีเพลงดังอยู่มากมายอย่างเพลง Showtime, ครับครับ, ผู้ชายไม่เป็นเพื่อนกับผู้หญิง ฯลฯ โปรเจกต์นี้ทำให้หนุ่มชิน ได้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว ในปี 2550 ชินยังมีอัลบั้มเดี่ยวเป็นของตัวเองที่ชื่อว่า CHIN UP โดยมีซิงเกิลเปิดตัวคือเพลง ปากไม่ตรงกับใจ ที่ทำเอาฮิตติดชาร์ตครองคลื่นวิทยุทั่วประเทศ ไม่นานในปีถัดมา ชินก็ออกอัลบั้มชุดที่ 2 ตามมาติด ๆ ซึ่งมีชื่ออับบั้มสุดฮิตอย่าง Maybe I am Bad อัลบั้มชุดนี้ได้ขนเพลงเศร้าแสนเจ็บปวดไว้มากมายอย่าง หัวใจไม่ใช่กระดาษ และด้วยความโด่งดังจนทำให้ตัวเองเริ่มมีชื่อเสียงทำให้ชินได้มีโอกาสมีผลงานอื่น ๆ ตามมาอีกนับไม่ถ้วน

ผลงานหลากหลายที่น่าจับตามองของ ชิน ชินวุฒ

ผลงานหลัก ๆ ของชินก็คงจะหนีไม่พ้นการร้องเพลงและการเต้น ที่เรียกได้ว่าขั้นเทพสุดแซ่บเลยทีเดียวไม่งั้นคงไม่ได้ฉายานักร้องหนุ่มเท่าไฟมาอย่างแน่นอน ผลงานที่น่าจับตามองในด้านอื่น ๆ ก็คือการแสดงและพากย์เสียง ชินถือว่าทำได้ดีมากเพราะชินเคยไปคว้ารับรางวัลโทรทัศน์ทองคำ สาขาทีมผู้พากย์การ์ตูนดีเด่น เจ้าของเสียง เจมี่ จากการ์ตูนเรื่อง เบิร์ดแลนด์ แดนมหัศจรรย์ ในปี 2554 อีกด้วย

ชินได้รับบทเป็นพระเอกภาพยนตร์เรื่องแรกของตนเองอย่างเรื่อง ทองสุก 13  ในปี 2556 ทำให้ชินกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นและจากนั้นก็มีผลงานแสดงละครออกมาให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ ทั้งเป็นตัวหลัก และตัวรอง ซึ่งเราอาจจะได้เห็นชินบ่อย ๆ ผ่านละคร ร้อยเล่ห์เสน่ห์ร้าย, ละคร Secret Garden อลเวงรักสลับร่าง, ภาพยนตร์ พี่นาค, ภาพยนตร์ แช่ง ตอน Tattoo และล่าสุดได้แสดงละครเวที ชายกลางเดอะมิวสิคัล ทำให้ชินอยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนานตั้งแต่และได้กลายเป็นหนุ่มหล่อเท่าไฟมากความสามารถเลยทีเดียว

ประสบการณ์จากการไปรับใช้ชาติ

ในระหว่างที่รับราชการทหารอยู่ก็เกิดจุดเปลี่ยนในชีวิตของชิน ระหว่างรับราชการทหารอยู่นั้นชินได้ประสบอุบัติเหตุบานประตูกระจกแตกแทงเข้าไปในข้อพับขา ทำให้เส้นเอ็นและเส้นเลือดใหญ่ฉีกขาด และทำให้เสียเลือดเป็นจำนวนมาก มีการเย็บแผลไปมากกว่าร้อยเข็ม มันให้ชินหมดไฟเป็นอย่างมากเพราะการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้มันทำให้ชินต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลา และมีโอกาสที่ชินจะไม่สามารถเต้นได้อีก แต่โชคดีที่ กวินท์ อดีตสมาชิกวงทรี.ทู.วัน ที่เข้ารับราชการทหารในผลัดเดียวกัน คอยพูดคุยและให้กำลังใจ ทำให้ชินกลับมามีไฟอีกครั้ง ชินจึงเริ่มกายภาพบำบัดด้วยตัวเองอย่างจริงจังจนในที่สุดก็สามารถกลับมาเดินและเต้นได้อีกครั้ง

ในวันที่ 1 มกราคม 2561 คือจุดเปลี่ยนทางความคิดของชินอีกครั้ง เมื่อชินได้ทราบข่าวว่าเพื่อนที่เคยรับราชการทหารด้วยกันเสียชีวิตลงแล้วจากอุบัติเหตุ ซึ่งชินได้เคยคุยกับเพื่อนคนนี้ไว้ว่า “หากปลดประจำการไปแล้วเราจะมาทำงานร่วมกัน” หลังจากที่ได้ทราบข่าว ทำให้ชินเปลี่ยนความคิดของตัวเองไปว่า ชีวิตของคนเรามันสั้นเกินไปที่จะต้องมาเสียเวลานั่งคิดมาก ชินพูดกับตัวเองว่า “ผมจะทำทุกอย่าง ไม่ว่าผลตอบแทนมันจะมากหรือน้อย” พอชินเริ่มคิดแบบนี้กลับกลายเป็นว่ามีงานเข้ามาหาชินเพิ่มมากขึ้น แค่เราเปลี่ยนความคิด เราก็จะมีพลังบวกกับทุกอย่างที่เข้ามาและเราก็จะสามารถทำมันออกมาได้อย่างเต็มที่และสนุกไปกับมัน

เครดิต men.kapook.com