โลกของเรารู้จักกับวิทยาการ “รถยนต์” มามากกว่า 250 ปีแล้ว เรียกได้ว่านานจนแฟน ๆ พี่ทุยคงจะนึกไม่ออกเลยว่า ถ้าวันนี้พวกเราไม่มีรถยนต์ใช้เดินทางไปไหนมาไหนชีวิตจะเป็นยังไง และหนึ่งบุคคลที่เป็นผู้ทรงอิทธิพลและเป็นจุดเปลี่ยนของวงการรถยนต์โลกย่อมจะหนีไม่พ้นชายชื่อ Henry Ford เจ้าของบริษัท Ford Motor เขาได้รับการขนานนามว่าเป็น “บิดาแห่งยานยนต์” และ เป็น “กัปตันแห่งอุตสาหกรรม” บทความ เปิดประวัติ Henry Ford นักประดิษผู้ประฎิวัติวงการยานยนต์ ด้วยการสร้างรถยนต์ให้กับคนทุกชนชั้นสามารถเป็นเจ้าของได้ เรื่องนี้ แม้ว่า Henry Ford จะไม่ใช่นักประดิษฐ์คนแรกของโลกที่คิดค้นรถยนต์ขึ้นมา แต่การที่เขาได้รับสมญานามนี้ก็เพราะเขาเป็นบุคคลแรกที่ทำให้รถยนต์ถูกผลิตออกมาและมีคนซื้อกันเป็นการทั่วไปจนออกมาวิ่งเต็มท้องถนน ผู้คนสามารถหาซื้อได้ในราคาที่จับต้องได้ทั่วสหรัฐฯ และทั่วโลกในเวลาต่อมา
Henry Ford
- เฮนรี ฟอร์ด เกิดวันที่ 30 ก.ค. ปี 1863 ณ เมืองดีทรอยต์ (เมืองหลวงของการผลิตรถยนต์ในสหรัฐ) รัฐมิชิแกน พ่อที่เป็นชาวไอริชอพยพทำงานเป็นชาวนา ครอบครัวของเขาที่มีพี่น้อง 5 คนและเขาเป็นคนโตอยู่ในฐานะยากจนข้นแค้น Henry สนใจเรื่องกลศาสตร์และเครื่องจักรมาตั้งแต่เด็ก เมื่อพ่อของเขามอบนาฬิกาข้อมือให้แต่เขากลับนำมาศึกษาด้วยการแกะออกเป็นชิ้น ๆ เพื่อศึกษาอย่างละเอียด ต่อมาเขารับซ่อมนาฬิกาให้กับเพื่อนบ้านในละแวกนั้นจนใคร ๆ ที่นาฬิกาข้อมือเสียเป็นต้องนึกถึง Henry จากความชื่นชอบในการซ่อมนาฬิกานี้จึงทำให้เขาในวัยเด็กอยากจะยึดอาชีพช่างซ่อมนาฬิกาเป็นอาชีพเมื่อโตขึ้น แต่ความฝันนี้กลับไปขัดใจพ่อของเขาอย่างแรงที่อยากให้ Henry ยึดอาชีพชาวนาต่อจากพ่อ Henry ไม่อยากทำอาชีพที่ทำให้ครอบครัวลำบากอีกต่อไป เขาจึงเริ่มมองหาอาชีพใหม่ในการประดิษฐ์อะไรสักอย่างจนทำให้เขามีชื่อเสียงร่ำรวยและหลุดพ้นจากการเป็นคนจน หลังจากคิดได้แบบนี้เขาจึงตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนกลางคันตอนอายุ 16 เพื่อไปเป็นช่างซ่อมในบริษัทหลายแห่ง การตามฝันในครั้งแรกนี้ล้มเหลวและเขาต้องกลับไปช่วยพ่อทำนาอีกครั้ง แต่สิ่งที่เขาได้มาระหว่างการเรียนรู้ครูพักลักจำในการเป็นช่างซ่อมก็คือ วิชาซ่อมหม้ออบไอน้ำซึ่งก็ได้ทำให้เขาได้งานที่แผนกช่างซ่อมหม้ออบไอน้ำของบริษัทชั้นนำในเวลานั้นชื่อว่า Westinghouse
ชีวิตในวัยทำงาน กับ รถยนต์คันแรกของ Henry Ford
- ในวัย 25 เฮนรี ฟอร์ด เริ่มเข้าทำงานที่บริษัท Edison Illuminating ของ Thomas Edison นักประดิษฐ์ผู้คิดค้นหลอดไฟได้เป็นคนแรก ในเวลานั้นบริษัทแห่งนี้เป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าแถวหน้าของสหรัฐฯ เฮนรี ฟอร์ด ทำงานกับบริษัทของ Thomas Edison อยู่ 2 ปีจึงได้รับการเลื่อนตำแหน่งมาเป็นหัวหน้าผู้ควบคุมดูแลฝ่ายช่างในปี 1893 ในช่วงนี้เขาเริ่มมีรายได้และเวลามากขึ้นจนสามารถเริ่มประดิษฐ์สิ่งที่เขาสนใจนอกเหนือจากการทำงานบริษัท และสิ่งที่เขาสนใจก็คือ รถยนต์และเครื่องยนต์เบนซิน 4 จังหวะ ช่วงเวลานั้น การประดิษฐ์รถยนต์ยังไม่ได้รับความนิยมมากนักในสหรัฐฯ วิทยาการในเรื่องนี้ที่ล้ำหน้าและรถยนต์ส่วนใหญ่ถูกนำเข้ามาขายโดยบริษัทจากเยอรมนี แถมรถยังมีราคาแพงมากจนมีแต่เศรษฐีที่ร่ำรวยเท่านั้นที่ซื้อได้ ต่อมาในปี 1896 รถยนต์คันแรกของ เฮนรี ฟอร์ด ก็ถูกประดิษฐ์ขึ้นจนสำเร็จ ชื่อว่า Quadricycle ซึ่ง Quad หมายถึงสี่มาจากลักษณะสี่ล้อ เขานำเครื่องยนต์ไปใส่ไว้ในรถลากที่ใช้ล้อจักรยานสี่ล้อเป็นตัวขับเคลื่อนไปข้างหน้า เมื่อ Thomas Edison เห็นแววของผลงานของ เฮนรี ฟอร์ด ในครั้งนี้ เขาก็สนับสนุนทุนให้ประดิษฐ์ Quadricycle คันที่สองที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม ต่อมาอีก 2 ปี Quadricycle คันที่สองก็ถูกสร้างเสร็จ แต่ Thomas Edison ที่เป็นผู้ออกทุนให้ก็ยังไม่ยอมเปิดสายงานผลิตรถยนต์ให้ตามที่ เฮนรี ฟอร์ด ร้องขอ ขณะที่การแข่งขันในตลาดธุรกิจรถยนต์กำลังเริ่มดุเดือดขึ้นทุกทีและ เฮนรี ฟอร์ด ก็ไม่อยากรอ Thomas จนปล่อยให้โอกาสหลุดมือไป เขาจึงลาออกจากบริษัท Edison Illuminating แล้วหันไปหาผู้สนับสนุนรายใหม่นั่นคือ William Murphy มหาเศรษฐีนักลงทุนแห่งเมืองดีทรอยต์ ตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Detroit Automobile ในปี 1989 ซึ่งนับเป็นบริษัทรถยนต์แห่งแรกของ เฮนรี ฟอร์ด
จุดเริ่มต้นในการผลิตรถยนต์ของ Henry Ford
- แม้ว่ารถยนต์ต้นแบบจะพร้อม และเทคโนโลยีเครื่องยนต์ก็ดูจะพร้อมแล้ว แต่บริษัทแรกของ เฮนรี ฟอร์ด ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากต้นทุนการผลิตรถหนึ่งคันให้ได้มาตรฐานในเวลานั้นสูงมาก ด้วยเหตุนี้บริษัท Detroit Automobile จึงประสบภาวะขาดทุนอย่างมากตลอด 2 ปีที่เปิดสายการผลิต เฮนรี ฟอร์ด จึงหันไปพัฒนารถแข่งเพราะการพัฒนาคุณภาพของรถยนต์นั้น อย่างหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญก็คือความเร็วของรถแข่งด้วย นี่เองทำให้ เฮนรี ฟอร์ด พลิกวิกฤตมาประสบความสำเร็จกับการสร้างรถแข่งรุ่น 26 HP ที่เข้าแข่งขันในสนามจนได้ชัยชนะ หลังจากนั้นชื่อของ เฮนรี ฟอร์ด จึงถูกจับตามองอีกครั้งในหมู่นักลงทุน เขารวบรวมเงินได้อีกก้อนหนึ่งแล้วเปิดบริษัท เฮนรี ฟอร์ด ในช่วงปลายปี 1901 แม้ว่าชื่อบริษัทจะใช้ชื่อของเขา แต่เขาเป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายเล็กรวมถึงมีตำแหน่งในบริษัทเป็นแค่หัวหน้าฝ่ายช่าง ไม่มีบทบาทกับบริษัทมากนัก เฮนรี ฟอร์ด จึงลาออกไปตั้งบริษัทใหม่อีกครั้ง ส่วนบริษัท เฮนรี ฟอร์ด ก็เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท Cadillac Automobile ซึ่งก็คือบริษัทผลิตรถยนต์ Cadillac ในปัจจุบันนั่นเอง และบริษัท Ford Motor ก็ถือกำเนิดขึ้น และ หลังจากนั้นก็คือจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์
สิ่งที่น่าสนใจในตัวของ Henry Ford
- จากครอบครัวชาวนายากจน Henry Ford ผู้มีนิสัยรักการประดิษฐ์ ฝึกฝนตัวเองจนได้เข้าทำงานที่บริษัทของ Thomas Edison ผู้ประดิษฐ์หลอดไฟคนแรกของโลก ก่อนที่เขาจะผลิตรถยนต์ Quadricycle รถลากที่มีเครื่องยนต์ภายในและใช้ล้อจักรยานสี่ล้อเป็นตัวขับเคลื่อนได้สำเร็จ นับเป็นรถยนต์คันแรก ๆ ที่ใช้เดินทางได้จริงในสหรัฐ
- Henry ทำธุรกิจผลิตรถยนต์ขาดทุนจึงไปรวบรวมทุนจากการสร้างรถแข่งจนโด่งดัง เขาเปิดบริษัท Ford Motor ในปี 1903 แต่ยังเจอปัญหาแบบเดิม ๆ คือตลาดรถยนต์ยังแคบ กำลังซื้อของคนทั่วไปมีไม่มากพอ Henry จึงผลิตรถยนต์รุ่น Ford Model T ออกมาแก้ปัญหาทุกอย่าง รถยนต์รุ่นนี้ขับง่าย ซ่อมง่าย ราคาไม่แพง จนทำให้กลายเป็นรถที่มียอดขายถล่มทลาย คนใช้รถครึ่งประเทศสหรัฐต่างเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นนี้
- จากเดิมคนทำงานจะมีวันหยุด 1 วันต่อสัปดาห์ แต่ในปี 1938 Ford Motor เริ่มทดลองให้คนงานในโรงงานของตัวเองทำงานสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมงและไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมง เมื่อหลายบริษัทเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นของการผลิตอันเกิดจากการที่พนักงานมีวันหยุดเต็มที่ 2 วัน จึงกำหนดให้พนักงานได้วันหยุด 2 วันเช่นกัน สิ่งนี้กลายเป็นวัฒนธรรมวันทำงาน 5 วันมาจนถึงปัจจุบัน
สรุป
บทความ เปิดประวัติ Henry Ford นักประดิษผู้ประฎิวัติวงการยานยนต์ ด้วยการสร้างรถยนต์ให้กับคนทุกชนชั้นสามารถเป็นเจ้าของได้ เรื่องนี้ มีการบันทึกเอาไว้ว่า ในปี 1918 นั้น จำนวนครึ่งหนึ่งของรถบนท้องถนนสหรัฐฯ ทั้งประเทศเป็นรถรุ่น Ford Model T ของ Ford Motor และนั่นก็หมายความว่าในปีนี้ บริษัท Ford Motor ก็ได้ครองส่วนแบ่งการตลาดของตลาดรถยนต์มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย รถยนต์รุ่นนี้ยังมีการผลิตต่อเนื่องไปอีกยาวนานถึง 19 ปี ได้รับการบันทึกสถิติว่าเป็นรถยนต์รุ่นที่เปิดสายพานการผลิตยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ กับจำนวนรถที่ถูกผลิตส่งขายทั่วโลกมากกว่า 15 ล้านคัน